สวัสดี

Technology & Innovation

ตลาดจีนนำเข้าเนื้อหมูเติบโต 2 เท่า

เมษายน 2559

รายละเอียด :

จีนเป็นผู้บริโภคหมูรายใหญ่ที่สุดของโลก สารพัดเมนูจีนล้วนทำจากเนื้อหมูเป็นหลัก และเกษตรกรจีนจำนวนมากก็มีอาชีพเลี้ยงหมู ถือเป็นอาชีพยอดฮิตที่อยู่คู่กับสังคมจีน เช่นเดียวกับการทำนาและสวนผัก หากจะบอกว่าจีนต้องนำเข้าหมูจากต่างประเทศเพื่อบริโภค อย่างไรก็ตาม ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ปรากฏว่ายอดการนำเข้าเนื้อหมูของจีน กลับเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ในเดือนมกราคม การนำเข้าหมูเพิ่มขึ้นร้อยละ 56 และในเดือนกุมภาพันธ์ การนำเข้าหมูเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 76 เนื่องจากเป็นเทศกาลตรุษจีน มีการบริโภคหมูมากเป็นพิเศษ เดือนมีนาคมปริมาณนำเข้า 147,000 ตัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วมากกว่า 2 เท่าตัว

ก่อนหน้านี้ เนื้อหมูราคาตกต่ำ เกษตรกรเลี้ยงหมูแล้วขาดทุน บวกกับกฎเกณฑ์ด้านการปล่อยน้ำเสียหรือสิ่งปฏิกูลสู่สิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดขึ้นเรื่อยๆ ทำให้คนจำนวนมากถอดใจพากันเลิกเลี้ยงหมู หันไปประกอบอาชีพอื่นแทน จนหมูหายไปจากท้องตลาด ขณะที่ในฤดูหนาวที่ผ่านมา อากาศหนาวจัดจากสภาวะอากาศแปรปรวนทั่วโลก ทำให้ลูกหมูในจีนตายไปเป็นจำนวนมาก บวกกับการเผชิญโรคระบาด ทำให้เหลือหมูที่โตพอมาเข้าโรงเชือดในช่วงนี้น้อยเกินความต้องการของตลาด ราคาหมูแพงขึ้นถึงเกือบร้อยละ 50 จนต้องมีการนำเข้าเนื้อหมูเพื่อชดเชย


ยุโรป ผู้ส่งออกเนื้อหมูรายใหญ่ที่สุดในโลก ไตรมาสที่ 1 มูลค่าส่งออกเนื้อหมูไปจีนเพิ่มขึ้น 93% เมื่อเทียบกับปี 2557 ช่วงเดียวกัน ส่วนสหรัฐอเมริกา เนื่องจากรัฐบาลจีนเพิ่งยกเลิกการแบน 16 ผู้ผลิตและส่งออกเนื้อหมูในสหรัฐฯ หลังจากตรวจพบในปี 2557 ว่าเนื้อหมูจากบริษัทเหล่านี้มีสารเร่งเนื้อแดง กระทรวงเกษตรของสหรัฐฯ เปิดเผยว่าในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ยอดส่งออกเนื้อหมูจากสหรัฐฯ ไปยังจีนเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 38 เป็น 16,000 ตัน


การนำเข้าเนื้อหมูของจีนในปี 2559 มีแนวโน้มที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 1 ล้านตัน เป็นครั้งแรก หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 28% จาก 7.77 แสนตัน ในปี 2558 หลังเกษตรกรรายย่อยปิดกิจการฟาร์มสุกรไปราว 500 แห่ง เมื่อปีก่อน


กระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกาคาดการณ์ ปริมารผลิตเนื้อหมูของโลกในปีนี้จะลดลง 1% หรือมีปริมาณ 109.3 ล้านตัน เนื่องจากการผลิตของจีนและสหภาพยุโรปที่ลดลง ขณะที่สหรัฐอเมริกา บราซิล และรัสเซียมีผลผลิตเพิ่มขึ้น การที่จีนออกมาตรการด้านสุขภาพสัตว์และสิ่งแวดล้อมควบคุมเกษตรกรเลี้ยงหมูเข้มงวดมากขึ้นทำให้เกษตรกรรายย่อยได้เลิกเลี้ยงไป ผนวกกับสถานการณ์เศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ทำให้ปริมาณการเลี้ยงหมูของจีนลดลง ส่วน EU ราคาที่ตกต่ำทำให้เกษตรกรเลิกเลี้ยง

ความคิดเห็น
มาตรการด้านสวัสดิภาพสัตว์ที่จีนกำลังดเนินการอยู่นี้ จะครอบคลุมตั้งแต่สภาพแวดล้อมของฟาร์ม สภาพการอยู่อาศัย การควบคุมโรค ความหนาแน่นของปริมาณสัตว์ที่เลี้ยง อุณหภูมิ ความชื้น อาหาร และน้ำที่มีสุขอนามัย เพื่อสุขภาพสัตว์ที่ดี ขั้นตอนการเชือด ไปจนถึงการแปรรูปเนื้อสัตว์ การที่จีนมีแนวโน้มเข้มงวดมากขึ้นในกฎระเบียบด้านสวัสดิภาพสัตว์ ถือเป็นก้าวใหม่ของวงการเกษตรที่กำลังมุ่งสู่ประเด็นที่ทั่วโลกกำลังตื่นตัว  น่าจะเป็นสัญญานที่เกษตรกรไทยและผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหารของไทยต้องหันกลับมาพิจารณาผลกระทบด้านสวัสดิภาพสัตว์ในการเลี้ยงสัตว์และการแปรรูปอาหารเพิ่มมากขึ้น  หากก้าวช้า อีกไม่กี่ปี จีนก็จะนำหน้า  
สำหรับด้านตลาดส่งออกเนื้อหมูของไทยนั้นยังเป็นปัญหาที่ต้องอาศัยการกำหนดพื้นที่เลี้ยงและควบคุมโรคอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ปลอดจากโรคปากเปื่อยเท่าเปื่อย แต่อย่างไรก็ตามสำหรับผลิตภัณฑ์เนื้อหมูแปรรูปนั้นก็ยังมีโอกาสเพียงแต่ต้องศึกษาพฤติกรรมการบริโภคของประเทศจีนแต่ละมณฑลว่าควรต้องนำผลิตภัณฑ์แบบใดไปจำหน่ายเพื่อตรงกับความต้องการของตลาดให้มากขึ้น

ที่มา :
http://www.producer.com/2016/04/china-likely-to-import-more-pork/
https://www.agriland.ie/farming-news/import-demand-in-china-to-support-global-pork-market-recovery-rabobank/

 

download PDF ย้อนกลับ

สถาบันอาหาร

อุตสาหกรรมพัฒนามูลนิธิ เพื่อสถาบันอาหาร

2008 ซ.อรุณอมรินทร์ 36 ถ.อรุณอมรินทร์ แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร 10700

Google map

ติดต่อสอบถาม

Email : fic@nfi.or.th
หรือ Call center
contact-img

0-2422-8688 ต่อ 3121
โทรสาร : 02-4228527