สวัสดี

Technology & Innovation

ฝรั่งเศสปรับภาษีน้ำมันปาล์มที่ใช้ในอาหารใหม่

มีนาคม 2559

รายละเอียด :

ฝรั่งเศสกำหนดเพิ่มภาษีน้ำมันปาล์มที่ใช้ในอาหาร โดยมีเป้าหมายที่จะส่งเสริมและลดความเสียหายด้านสิ่งแวดล้อมของสวนปาล์มน้ำมัน ฝรั่งเศสจะเริ่มนำภาษีใหม่มาปรับใช้โดยค่อยๆ ปรับภาษีเพิ่มขึ้นทีละน้อยเพื่อช่วยลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ภาษีใหม่จะเริ่มต้นที่ 30 ยูโร หรือ 34 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2560 และเพิ่มขึ้น 20 ยูโรต่อปี จนถึง 90 ยูโร ในปี 2563

ฝรั่งเศสกำหนดเพิ่มภาษีน้ำมันปาล์มที่ใช้ในอาหาร โดยมีเป้าหมายที่จะส่งเสริมและลดความเสียหายด้านสิ่งแวดล้อมของสวนปาล์มน้ำมัน ฝรั่งเศสจะเริ่มนำภาษีใหม่มาปรับใช้โดยค่อยๆ ปรับภาษีเพิ่มขึ้นทีละน้อยเพื่อช่วยลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ภาษีใหม่จะเริ่มต้นที่ 30 ยูโร หรือ 34 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2560 และเพิ่มขึ้น 20 ยูโรต่อปี จนถึง 90 ยูโร ในปี 2563 ภาษีใหม่ที่เพิ่มขึ้นจะยกเว้นน้ำมันที่มีกระบวนการผลิตอย่างยั่งยืนเนื่องจากน้ำมันที่มีกระบวนการผลิตอย่างยั่งยืนไม่ได้ทำลายหรือสร้างความเสียหายด้านสิ่งแวดล้อมให้กับสวนปาล์มน้ำมัน การจัดเก็บภาษีใหม่ทำให้ฝรั่งเศสจัดเก็บภาษีได้เพิ่มขึ้นจากเดิม 104 ยูโรต่อตัน เดิมคาดว่าจะอนุมัติในวันที่ 18 มีนาคม 2559 แต่เนื่องจากมีความหลากหลายทางชีวภาพในการจัดเก็บภาษีที่กว้างขึ้นจึงต้องมีการตรวจสอบเพิ่มเติมอีกครั้งในช่วงเดือนพฤษภาคม - มิถุนายน 2559 ก่อนที่จะกำหนดการเรียกเก็บภาษีใหม่อย่างชัดเจน “การริเริ่มออกกฎหมายการคลังของฝรั่งเศสเกี่ยวกับภาษีของผลิตภัณฑ์ที่มีผลกระทบกับการตัดไม้ทำลายป่าได้รับการยอมรับไปทั่วโลกซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีในด้านการรักษาสิ่งแวดล้อมของประเทศฝรั่งเศส” Barbara Pompili รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมด้านความหลากหลายทางชีวภาพ สมัชชาแห่งชาติ ส่วนฝรั่งเศสกล่าวว่า “ในด้านภาษีที่เรียกเก็บเพิ่มขึ้นที่เกี่ยวข้องกับองค์การการค้าโลก (WTO) มีเพียงกลุ่มน้ำมันที่ไม่มีกระบวนการผลิตตรงตามเกณฑ์ด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนเท่านั้น” แต่อินโดนีเซียและมาเลเซีย กล่าวว่า มันเป็นเรื่องของการเลือกปฏิบัติและอินโดนีเซียยกประเด็นดังกล่าวนี้ได้เรียกร้องที่องค์การการค้าโลก (WTO)  เมื่อเดือนที่แล้ว

 

การเก็บภาษีมะพร้าวและน้ำมันจากเมล็ดปาล์ม

          ภาษีใหม่นี้จะนำไปปรับใช้กับเนื้อมะพร้าวแห้ง (copra) และน้ำมันจากเมล็ดปาล์ม ซึ่งนิยมใช้ในการปรุงอาหารแต่ไม่ส่งผลกระทบต่อน้ำมันพืชที่ใช้ในเครื่องสำอางและเชื้อเพลิงชีวภาพ การนำเข้าน้ำมันปาล์มของประเทศฝรั่งเศสมีไม่มากนักแต่ผู้ผลิตมีความกังวลเกี่ยวกับภาษีใหม่นี้จะถูกนำไปปรับใช้ในประเทศอื่นๆ โดยประเทศฝรั่งเศสในปีที่ผ่านมานำเข้าน้ำมันปาล์มจากประเทศอินโดนีเซียประมาณ 100,000 ตัน และนำเข้าน้ำมันปาล์มจากมาเลเซีย 11,000 ตัน ก่อนหน้านี้ฝรั่งเศสพยายามที่จะกำหนดภาษีเฉพาะกับน้ำมันปาล์มแต่ล้มเหลว เนื่องจากเส้นสายของผู้ผลิตมีความแข็งแกร่ง ข้อเสนอที่ผ่านมาจึงได้รับการขนานนามว่า "Nutella tax" จากสื่อฝรั่งเศสเพราะช็อกโกแลตเฮเซลนัทที่เป็นที่นิยมประกอบด้วยน้ำมันปาล์มประมาณร้อยละ 20 อย่างไรก็ตามตั้งแต่ปี 2556 Nutella ที่ขายในประเทศฝรั่งเศสได้ใช้น้ำมันปาล์มจากผู้ผลิตที่มีกระบวนการผลิตอย่างยั่งยืน อีกทั้งซูเปอร์มาร์เก็ตหลายแห่งในฝรั่งเศสได้มีการห้ามใช้น้ำมันปาล์มในผลิตภัณฑ์แบรนด์ของตัวเอง ส่วนหนึ่งเนื่องมาจากความกังวลของประชาชนที่น้ำมันปาล์มมีระดับไขมันอิ่มตัวสูงอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภค

 

ความคิดเห็น

          ความต้องการน้ำมันปาล์มเพิ่มสูงขึ้นทำให้มีการขยายพื้นที่ปลูกไปในพื้นที่ป่าซึ่งถือว่าเป็นการทำลายป่าไม้ ทำลายสิ่งแวดล้อม นอกจากนั้นยังมีผลกระทบต่อสังคมและท้องถิ่น จึงมีการตั้งมาตรฐานขึ้นมาที่เรียกว่า มาตรฐาน RSPO (Roundtable for Sustainable Palm Oil) เป็นมาตรฐานที่สนับสนุนให้มีการผลิตปาล์มน้ำมันอย่างยั่งยืน ตั้งแต่เกษตรกรผู้ผลิตทะลายปาล์ม โรงสกัดน้ำมันปาล์ม โรงกลั่นน้ำมันปาล์ม โดยแต่ละส่วนจะมีข้อกำหนดที่แตกต่างกัน ซึ่งทุกๆ ขั้นตอนของการผลิตปาล์มจนถึงผู้บริโภคจะต้องผ่านมาตรฐาน RSPO จะขาดขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่งไม่ได้ อีกทั้งในปัจจุบันมีสภาวะการแข่งขันที่สูงขึ้นการยกระดับคุณภาพผลผลิตให้ตรงตามมาตรฐาน RSPO จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่จะทำให้บริษัทเหนือกว่าคู่แข่ง บริษัทหลายแห่งทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศมีความใส่ใจในด้านสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้นจึงทำให้มีการเลือกคู่ค้าที่ได้รับมาตรฐาน RSPO มาพิจารณาในการรับซื้อสินค้ามากขึ้น

download PDF ย้อนกลับ

สถาบันอาหาร

อุตสาหกรรมพัฒนามูลนิธิ เพื่อสถาบันอาหาร

2008 ซ.อรุณอมรินทร์ 36 ถ.อรุณอมรินทร์ แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร 10700

Google map

ติดต่อสอบถาม

Email : fic@nfi.or.th
หรือ Call center
contact-img

0-2422-8688 ต่อ 3121
โทรสาร : 02-4228527