Technology & Innovation

โอมานและญี่ปุ่นร่วมลงทนุในธุรกิจอาหารขนาดใหญ่

ตุลาคม 2558

รายละเอียด :

สาระสำคัญของข่าว 
โอมานและญี่ปุ่นบรรลุข้อตกลงในการจัดตั้งกองทุนอาหาร (Gulf Japan Food Fund: GJFF) 

สาระสำคัญของข่าว 
โอมานและญี่ปุ่นบรรลุข้อตกลงในการจัดตั้งกองทุนอาหาร (Gulf Japan Food Fund: GJFF) มูลค่าการลงทุน  400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็น 35% ของเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศทั้งหมดของโอมาน ซึ่งทั้งสองประเทศแบ่งการถือหุ้นคนละครึ่ง โดยฝ่ายโอมานมีผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นกองทุนความมั่นคั่งแห่งชาติของโอมาน (The State General Reserve Fund: SGRF) ส่วน ญี่ปุ่นมี Japan's Mizuho Bank ซึ่งเป็นธนาคาร ใหญ่อันดับสองของญี่ปุ่น และ Norinchukin Bank เป็นผู้ร่วมลงทุนและถือหุ้นร่วมกัน โดยมี H.E. Dr. Ali bin Massoud Al Sunaidi รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของโอมาน และ H.E. George Hisaeda เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำรัฐสุลต่านโอมาน เป็นตัวแทนในการลงนามในสัญญาร่วมทุนเมื่อเดือน ตุลาคมที่ผ่านมา

กองทุนดังกล่าวเน้นการลงทุนในอุตสาหกรรมอาหารและธุรกิจการเกษตรโดยมีพื้นที่ประเทศเป้าหมายอยู่ใน กลุ่มความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ (GCC) มีบริษัทผู้ผลิตอาหารและการเกษตรของญี่ปุ่นทำหน้าที่เป็นผู้ดำเนินงาน ครอบคลุมการลงทุนในธุรกิจหมวดอาหารจำพวกธัญพืช อาหารสัตว์ ผัก นมและผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงบริษัทขนส่งและกระจายสินค้า และบริษัทวิจัยต่างๆ

ทั้งนี้ ผู้นำโอมานพยายามที่จะกระจายการลงทุนในสาขาอื่นมากขึ้น นอกเหนือจากน้ำมัน ด้วยการใช้เงินงบประมาณภาครัฐในการทำกิจการระหว่างประเทศที่ช่วยดึงดูดการลงทุนและ เทคโนโลยีเข้ามาสู่ประเทศโอมาน  

ความเห็น
โอมานรวมถึงหลายประเทศในตะวันออกกลางเริ่มตระหนักถึงความเสี่ยงจากการที่ประเทศต้องพึ่งพิงรายได้ จากน้ำมันเพียงอย่างเดียว รัฐบาลจึงมีนโยบายในการส่งเสริมการลงทุนในสาขาอื่นๆ มากขึ้น โดยเฉพาะด้านอาหาร ซึ่งเป็นสาขาที่ประเทศเหล่านี้ขาดความเชี่ยวชาญและต้องการสร้างความมั่นคงเพื่อลดการพึ่งพิงจากภายนอก การที่โอมานเลือกญี่ปุ่นเป็นพันธมิตรทางธุรกิจเพราะญี่ปุ่นมีความเชี่ยวชาญด้านธุรกิจ มีจุดแข็งด้านเทคโนโลยี รวมถึง ภาพลักษณ์ที่ดีในการผลิตอาหารปลอดภัย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการวางรากฐานทางธุรกิจและสร้างความเข้มแข็ง ให้กับประเทศโอมานได้ในอนาคต 

ในขณะที่ญี่ปุ่นก็ต้องการขยายการค้าการลงทุนต่างประเทศในมิติใหม่ๆ เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับประเทศให้ เพียงพอรองรับรายจ่ายด้านสวัสดิการให้กับประชากรผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นในอนาคต โดยอุตสาหกรรมอาหารเป็นหนึ่งใน อุตสาหกรรมที่ญี่ปุ่นมองเห็นศักยภาพในการลงทุน แม้ญี่ปุ่นจะเป็นประเทศที่ต้องพึ่งพาอาหารจากภายนอกประเทศ เป็นส่วนใหญ่ แต่ญี่ปุ่นก็มีประสบการณ์ในการลงทุนต่างประเทศ มีความพร้อมด้านเทคโนโลยี มีการวางเครือข่ายการ ผลิตและการค้าอาหารไว้ในประเทศต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ซึ่งสามารถเชื่อมโยงให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจ ให้กับผู้ประกอบการของญี่ปุ่นได้
 
ที่มา : สำนักข่าวรอยเตอร์  
เข้าถึงได้จาก : http://www.reuters.com/article/2015/10/25/oman-japan-fundsidUSL8N12P0NK20151025#JRAzRQVaFjG6BeDc.97