สวัสดี

Technology & Innovation

RSPO ออกมาตรการใหม่การผลิตน้ำมันปาล์มแบบยั่งยืน

ธันวาคม 2558

รายละเอียด :

สาระสำคัญของข่าว
การประชุมโต๊ะกลมการผลิตน้ำมันปาล์มแบบยั่งยืนได้ประกาศมาตรการ RSPO Next

สาระสำคัญของข่าว

การประชุมโต๊ะกลมการผลิตน้ำมันปาล์มแบบยั่งยืนได้ประกาศมาตรการ RSPO Next ซึ่งเป็นมาตรการสมัครใจแบบเริ่มต้นสำหรับสมาชิก RSPO บริษัทที่สามารถปฏิบัติได้เกินเกณฑ์พื้นฐานของมาตรฐานการผลิตน้ำมันปาล์มอย่างยั่งยืน (RSPO)
RSPO Next มีข้อกำหนดที่เข้มงวดในพื้นที่ป่าพรุ การตัดไม้ทำลายป่า และการปล่อยก็าซเรือนกระจก เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดเกษตรกรผู้ปลูกต้องแสดงให้เห็นว่าพื้นที่อย่างน้อย 60% เป็นไปตามหลักการพื้นฐานและข้อกำหนด เกษตรกรต้องมีความมุ่งมั่นในการจะปฏิบัติตาม RSPO Next ในพื้นที่เพาะปลูกทั้งหมดของตน นอกจากนี้ นโยบายที่สำคัญของ RSPO Next

ประกอบด้วย :
 - บริษัทจะพัฒนาพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันถึงแม้ว่าจะเป็นพื้นที่ที่พืชและดินประกอบด้วยคาร์บอนต่ำ และบริษัทจะลดการปล่อยคาร์บอนในรูปแบบต่างๆ เพื่อรักษาป่า
- การพัฒนาป่าพรุใดๆ หลัง 16 พฤศจิกายน 2558 เป็นสิ่งต้องห้าม
- เกษตรกรผู้ปลูกต้องตรวจสอบ จัดการ และลดการปลดปล่อยก็าซเรือนกระจก ในตลอดกระบวนการผลิต และมีการรายงานสถานะให้ทราบ
- เกษตรกรผู้ปลูกต้องมีการวางแผนและมีแนวทางป้องกัน ติดตาม และดับไฟในพื้นที่ของตนและบริเวณโดยรอบ
- ในประเทศที่ไม่มีการกำหนดอัตราค่าจ้างเพื่อชีวิต ไว้ เกษตรกรผู้ปลูกและคนงานต้องตกลงมีความเห็นสอดคล้องกันเรื่องอัตราค่าจ้าง
- ห้ามใช้พาราควอตเป็นสารกำจัดศัตรูพืช
- น้ำมันปาล์มที่ได้ต้องสามารถตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งปลูกได้

ความเห็น
RSPO จัดตั้งขึ้นโดยคณะกรรมการจากกลุ่มเกษตรกร ผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมที่เป็นโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม ผู้ค้าปาล์ม น้ำมัน ผู้ผลิตสินค้า นักลงทุน และองค์กรพัฒนาเอกชนด้านสังคม 

เมื่อปฏิบัติตามมาตรฐาน RSPO แล้วประโยชน์ที่จะได้รับก็คือ เกษตรกรจะได้รับความรู้ที่ถูกต้องในการจัดการสวนปาล์มจากผู้ที่เชี่ยวชาญด้านปาล์มน้ำมัน ตั้งแต่การเพาะปลูกอย่างมีประสิทธิภาพ การใช้ปุ๋ย การจัดการศัตรูพืชแบบผสมผสาน การบริหารจัดการดิน การบริหารจัดการน้ำ การเก็บเกี่ยวที่ดี รวมทั้งการแบ่งปันเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในการปรับปรุงกระบวนการผลิต และการนําของเสียหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่  สิ่งที่ตามมาคือ เกษตรกรสามารถลดต้นทุนในการปลูกปาล์มน้ำมัน ผลผลิตต่อไร่สูงขึ้น ซึ่งก็หมายถึงผลปาล์มจะมีอัตราน้ำมันเพิ่มขึ้น ปาล์มน้ำมันมีคุณภาพดีขึ้น สามารถจําหน่ายได้ในราคาที่สูงขึ้น เกษตรกรและชุมชนก็จะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีรายได้เพิ่มขึ้น

ในสภาวะการแข่งขันสูงการยกระดับคุณภาพผลผลิตให้ตรงตามมาตรฐาน RSPO เป็นสิ่งจําเป็น เนื่องจากบริษัทชั้นนําทั้งไทยและต่างประเทศมีการเลือกคู่ค้าที่ได้รับมาตรฐาน RSPO มาพิจารณาในการรับซื้อสินค้ามากขึ้น โดยหลายแห่งกําหนดกฎเกณฑ์ มาตรฐานในการรับซื้อวัตถุดิบ ส่วนประกอบ หรือแสดงจุดยืนในการรับสินค้ามาขายต่อจากผู้ประกอบการที่เป็นต้นน้ำจนถึงปลายน้ำที่มีกระบวนการผลิตที่รักษ์สิ่งแวดล้อม อาทิ Marks & Spencer, Carrefour, Cargill นอกจากนี้ กลุ่มผู้นําเข้าน้ำมันปาล์มสําคัญ 6 ประเทศ ได้แก่ เบลเยียม ฝรั่งเศส อังกฤษ เนเธอร์แลนด์ สวีเดน และเดนมาร์ก ได้ประกาศ National Commitment ว่า ภายในปี 2558 จะนําเข้าเฉพาะน้ำมันปาล์มที่มีการผลิตอย่างยั่งยืนเท่านั้น ขณะเดียวกันเยอรมนีมีการออกกฎหมายเกี่ยวกับการรับรองแหล่งที่มาของการผลิตน้ำมันปาล์มที่ไม่ทําลายสิ่งแวดล้อม

การออกมาตรการ RSPO Next ที่เพิ่มความสำคัญเรื่องการลดการปล่อยก็าซเรือนกระจก และการตรวจสอบย้อนกลับ เป็นไปตามทิศทางของตลาดโลก ซึ่งเชื่อว่าธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีนโยบายด้านนี้อยู่แล้วจะออกมาขานรับ ดังนั้นผู้ประกอบการไทยจึงควรต้องเริ่มให้ความสำคัญประเด็นนี้เพิ่มมากขึ้น

ที่มา : R.S.P.O. launches new level of sustainable palm oil

เข้าถึงได้จาก : http://www.foodbusinessnews.net/articles/news_home/Business_News/2016/02/RSPO_launches_new_level_of_sus.aspx?ID={F1156042-3216-4DBA-9E3A-318D3B68A953}&p=1

download PDF ย้อนกลับ

สถาบันอาหาร

อุตสาหกรรมพัฒนามูลนิธิ เพื่อสถาบันอาหาร

2008 ซ.อรุณอมรินทร์ 36 ถ.อรุณอมรินทร์ แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร 10700

Google map

ติดต่อสอบถาม

Email : fic@nfi.or.th
หรือ Call center
contact-img

0-2422-8688 ต่อ 3121
โทรสาร : 02-4228527