19 กันยายน 2552
ฝรั่งเศสห้ามใช้สาร BPA ในบรรจุภัณฑ์อาหาร
กลายเป็นประเด็นที่ยังค้างคาใจอยู่ สำหรับผลกระทบจากการใช้บรรจุภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารบีพีเอ หรือ บิสฟีนอลเอ (Bisphenol A: BPA) ต่อระบบการทำงานของร่างกาย หลังจากที่หลายประเทศทยอยออกกฎหมายห้ามใช้สารบิสฟีนอลเอในหลายผลิตภัณฑ์ ในขณะที่นักวิทยาศาสตร์ และผู้ที่เกี่ยวข้องออกมาโต้แย้งว่าสารบิสฟีนอลเอในบรรจุภัณฑ์นั้นอยู่ในระดับไม่เป็นอันตรายแก่ผู้บริโภค
ล่าสุดประเทศฝรั่งเศสเป็นประเทศแรกของสหภาพยุโรปที่ออกประกาศห้ามใช้สารบิสฟีนอลในบรรจุภัณฑ์อาหาร หลังจากผลการศึกษาพบว่าสารบิสฟีนอลเอส่งผลเสียต่อระบบการทำงานของร่างกาย ได้แก่ ระบบประสาท ต่อมไทรรอยด์ พัฒนาการของทารกในครรภ์ และเป็นสาเหตุของรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคมะเร็งต่อมลูกหมากและมะเร็งเต้านม โดยเฉพราะอย่างยิ่งผลกระทบต่อเด็กแรกเกิดและทารกซึ่งมีโอกาสได้รับสารบิสฟีนอลเอ จากขวดนมและภาชนะบรรจุอาหาร (Milk bottle and sipper cup) การประกาศห้ามใช้สารบิสฟีนอลเอในครั้งนี้ถือเป็นมาตรการป้องกันล่วงหน้า (Precautionary measure) ซึ่งจะครอบคลุมถึงการนำเข้า การจำหน่าย และการกระจายสินค้าบรรจุภัณฑ์อาหารที่ผิดกฏหมาย
สำหรับประเทศที่ประกาศห้ามใช้สารบิสฟีนอลเออย่างจริงจัง ได้ก่ แคนาดา สหรัฐอเมริกา รวมทั้งกลุ่มผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์อีกหลายราย ทั้งนี้ผู้ประกอบการ ไทยที่ส่งสินค้าออกไปยังประเทศดังกล่าวรวมทั้งฝรั่งเศส จะต้องเพิ่มความระมัดระวังมิให้เกิดการปนเปื้อนสารบิสฟีนอลเอ และ แสดงผลการทดสอบเพื่อยืนยันว่าผลิตภัณฑ์ปลอดจากสารดังกล่าวจริง
download PDF ย้อนกลับ