สิงหาคม 2567
ในปี พ.ศ. 2566 เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงครองตำแหน่งผู้ผลิตลิ้นจี่อันดับ 2 ของประเทศจีน รองจากมณฑลกวางตุ้ง ด้วยพื้นที่เพาะปลูกกว่า 979,207 ล้านไร่ และผลผลิตถึง 960,000 ตัน กว่างซีขึ้นชื่อในการปลูกลิ้นจี่มากกว่า 60 สายพันธุ์ โดยมีอำเภอหลิงซาน เมืองชินโจว เป็นแหล่งปลูกที่มีชื่อเสียงที่สุด จนได้รับฉายา "บ้านเกิดของลิ้นจี่จีน"
ความท้าทายสำคัญของการผลิตลิ้นจี่คือการรักษาความสด เนื่องจากลิ้นจี่เป็นผลไม้ที่ไม่สามารถบ่มสุกได้ และมีช่วงเวลาที่รสชาติดีที่สุดเพียง 3-5 วันเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ เมืองหลิงซานจึงได้พัฒนาเทคนิคการถนอมความสดแบบใหม่ ที่ช่วยยืดอายุความสดของลิ้นจี่ได้นานถึง 60 วัน
เทคนิคดังกล่าวใช้หลักการผสมผสานระหว่างชีววิทยาและฟิสิกส์ โดยการแช่ลิ้นจี่ในน้ำที่ผสมสารชีวภาพพิเศษ ซึ่งจะเคลือบผิวลิ้นจี่เพื่อชะลอการรวมตัวกับออกซิเจน ช่วยรักษาสีสันและรสชาติ นอกจากนี้ สารดังกล่าวยังมีคุณสมบัติยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย และอุดมไปด้วยสารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น Tea Polyphenols และวิตามินซี
ความสำเร็จนี้เป็นผลจากความร่วมมือระหว่างหน่วยงานเกษตรและชนบทของอำเภอหลิงซาน กับทีมผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการเกษตรจากมณฑลอันฮุย หลังจากการวิจัยและติดตามผลนานกว่า 3 ปี เทคนิคนี้ได้รับการจดสิทธิบัตรและเริ่มส่งเสริมให้เกษตรกรนำไปใช้อย่างแพร่หลายในปีนี้
นอกเหนือจากเทคนิคการถนอมความสดแล้ว การเก็บเกี่ยวและการจัดการหลังการเก็บเกี่ยวก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เกษตรกรควรเก็บเกี่ยวลิ้นจี่ในช่วงเช้าที่น้ำค้างแห้งแล้วแต่ยังไม่แดดจัด เลือกผลที่สุกประมาณ 80-85% และเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 3-5 องศาเซลเซียส
ด้วยนวัตกรรมนี้ กว่างซีไม่เพียงแต่จะรักษาตำแหน่งผู้ผลิตลิ้นจี่รายใหญ่ของจีนเท่านั้น แต่ยังเพิ่มโอกาสในการส่งออกและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิตอีกด้วย
ที่มา :
https://thaibizchina.com/energy-technology-environment/bicnng2024-06-26/. สืบค้นเมื่อ 10 ส.ค. 2567.
download PDF ย้อนกลับ