กันยายน 2563
สำนักงานลขาธิการคณะกรรมการบริหารการค้าต่างประเทศของบราซิล (Brazil’s Executive Secretary of the Foreign Trade Board : CAMEX) ได้มีมติเมื่อวันพุธ ที่ 9 กันยายน 2563 ให้นำเข้าข้าวเปลือก และข้าวสารอัตราภาษีนำเข้าร้อยละ 0 จำนวน 400,000 ตัน ซึ่งมีผลถึงวันที่31 ธันวาคม 2020 เพื่อบรรเทาปัญหาข้าวของบราซิลที่ราคามีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากความต้องการบริโภคที่มากขึ้นในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
บราซิลเป็นผู้ผลิตและผู้บริโภคข้าวรายใหญ่ที่สุดนอกเอเชีย อุปทานต่อปีโดยเฉลี่ยถึง 15 ล้านตันข้าวเปลือกซึ่งสีเป็นข้าวและผลิตภัณฑ์เพื่อการบริโภคได้ราว 12.14 ล้านตัน ซึ่งเพียงพอต่อการบริโภคภายในประเทศ โดยข้าวเป็นอาหารหลักอย่างหนึ่งของชาวบราซิล ที่ผ่านมาบราซิลมีการนำเข้าข้าวเฉลี่ยปีละประมาณ 3-4แสนตัน โดยนำเข้าจากปารากวัยเป็นหลัก มีการนำเข้าจากไทยเพียงปีละประมาณ 420 – 440 ตัน(ข้าวเหนียว 270 ตัน ข้าวเจ้าราว 170 ตัน) ในอัตราภาษีนำเข้าข้าวร้อยละ 12 และข้าวเปลือกร้อยละ 10 ส่วนอัตราภาษีภายในประเทศสมาชิก Mercosur ร้อยละ 0
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งชาวบราซิลต้องใช้เวลาในการอยู่บ้านมากขึ้นทำให้มีความต้องการบริโภคข้าวมากขึ้น ประกอบกับผู้ส่งออกข้าวของบราซิลเองก็สามารถส่งออกข้าวได้เพิ่มมากขึ้นส่งผลให้ราคาขายปลีกข้าวในบราซิลมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากเฉลี่ย 2 -4 เฮอัลต่อกิโลกรัม เป็น 3 -7 เฮอัลต่อกิโลกรัม ส่งผลให้เกิดการร้องเรียนไปยังรัฐบาลจำนวนมาก จึงทำให้คณะกรรมการบริหารการค้าต่างประเทศของบราซิลพิจารณาอนุญาตให้นำเข้าข้าวเปลือกและข้าวสาร อัตราภาษีนำเข้าร้อยละ 0 จำนวน 400,000 ตัน จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2020 เป้าหมายให้มีข้าวสารจำหน่ายในประเทศเพียงพอเพื่อให้ราคาข้าวจำหน่ายปลีกลดลง โดยผู้นำเข้าสามารถลงทะเบียนคำขอโควต้าผ่านระบบ SISCOMEX ของกระทรวงการค้าบราซิลไม่เกินบริษัทละ 34,000 ตัน
ความคิดเห็น
สถานการณ์ที่บราซิลมีความต้องการนำเข้าข้าวมากขึ้น โดยเฉพาะหากผู้นำเข้าสามารถเร่งขออนุญาตการนำเข้าข้าวในอัตราภาษีร้อยละ 0 เช่นนี้จะเป็นโอกาสของผู้ส่งออกไทยที่จะเร่งนำเสนอสินค้าข้าวของไทยต่อผู้นำเข้าบราซิลต่อไป และจะเป็นการเพิ่มความสัมพันธฺทางการค้าที่ดีต่อไปในระยะยาว
แปลและเรียบเรียง: สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเซาเปาโล 10 กันยายน 2563
download PDF ย้อนกลับ