เมษายน 2561
เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2561 กระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา (United States Department of Agriculture: USDA) ได้เปิดสำนักงานหน่วยงานบริการตรวจสอบสุขอนามัยพืชและสัตว์ (Animal and Plant Health Inspection Service: APHIS) ประจากรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม โดยมีเจ้าหน้าที่ภาครัฐของทั้ง 2 ประเทศ และตัวแทนจากภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ เข้าร่วมในพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ
สาระสำคัญของข่าว
เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2561 กระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา (United States Department of Agriculture: USDA) ได้เปิดสำนักงานหน่วยงานบริการตรวจสอบสุขอนามัยพืชและสัตว์ (Animal and Plant Health Inspection Service: APHIS) ประจากรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม โดยมีเจ้าหน้าที่ภาครัฐของทั้ง 2 ประเทศ และตัวแทนจากภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ เข้าร่วมในพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ
สำนักงาน APHIS ณ กรุงฮานอย จะเป็นตัวช่วยสำคัญในการขยายตลาดการส่งออกสินค้าเกษตร ซึ่งมีมูลค่า 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในเวียดนาม และรักษาตลาดในปัจจุบัน รวมทั้งสร้างโอกาสทางการตลาดใหม่ๆ ให้แก่เกษตรกรชาวอเมริกันที่มีการผลิตเป็นมาตรฐานสากล โดยมุ่งเน้นการทำงานด้านเทคนิคระหว่าง APHIS และหน่วยงานของเวียดนามเพื่อแก้ไขข้อกังวลที่ด้านมาตรฐาน สุขอนามัยและสุขอนามัยพืช เพื่อป้องกันการติดมาของศัตรูพืชและโรคพืชและสัตว์ นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญทางเทคนิคจาก APHIS ยังต้องร่วมมือและดำเนินงานอย่างใกล้ชิดกับเจ้าหน้าที่สำนักงานทูตเกษตร (Foreign Agricultural Service: FAS) ของ USDA ณ กรุงฮานอย และนครโฮจิมินห์เพื่อสนับสนุนนโยบายการค้าและงานด้านการพัฒนาตลาดอีกด้วยเจ้าหน้าที่ APHIS ในสำนักงานต่างประเทศ จำนวน 29 แห่ง ทั่วโลกมีหน้าที่สนับสนุนภารกิจของ USDA โดยมุ่งเน้นการปกป้องและส่งเสริมสุขภาพทางการเกษตร การอำนวยความสะดวกการค้าสินค้าเกษตรที่ปลอดภัย รับรองประสิทธิผลและประสิทธิภาพของการบริหารจัดการโปรแกรมในต่างประเทศ และลงทุนด้านการเสริมสร้างขีดความสามารถผ่านโปรแกรมการฝึกอบรมในต่างประเทศ เพื่อยกระดับทักษะและขีดความสามารถทางเทคนิค ทางการบริหาร และทางการทูต
ทั้งนี้ เวียดนามยังเปรียบเสมือนกับแม่เหล็กที่มีแรงดึงดูดแหล่งทุน เนื่องจากในปี 2560 อุตสาหกรรมการผลิตของเวียดนามเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และคาดว่ายังคงเติบโตสูงขึ้นอีกในอนาคต โดยมีสาเหตุมาจากสิทธิประโยชน์ในการลงทุน ความตกลงการค้าเสรี และการลงทุนสู่ภาคการศึกษา ส่งผลให้สัดส่วนแรงงานที่มีทักษะ และสัดส่วนคนงานที่อ่านออกเขียนได้สูง ทำให้มีแรงงานที่มีคุณภาพและเป็นที่ต้องการของตลาด
ความคิดเห็น
การเปิดสำนักงานใหม่ของ USDA ในเวียดนามแสดงให้เห็นกลยุทธ์มุมมอง และโอกาสทางการค้าสินค้าเกษตรและอาหารของสหรัฐฯ ที่มีต่อเวียดนาม เนื่องจากปัจจุบันเวียดนามเป็นหนึ่งในตลาดนำเข้าสินค้าเกษตรและอาหารที่มีการขยายตัวมากที่สุดและเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สุดอันดับที่ 11 ของสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยยังเป็นประเทศที่เป็นผู้ส่งสินค้าที่สำคัญของสหรัฐอเมริกา เนื่องจากภูมิประเทศและภูมิอากาศที่เหมาะสมแก่การเพาะปลูกและและอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องที่เกี่ยวข้อง ผู้ประกอบการทางภาคอุตสาหกรรมและเกษตรกรจึงต้องรักษามาตรฐานสินค้าเพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ประเทศคู่ค้าต่อไปในอนาคต
ที่มา :