พฤศจิกายน 2559
ปี 2017 ถือเป็นปีแรกในประวัติศาสตร์ที่อุตสาหกรรมอาหารของสหรัฐฯ อยู่ในกำมือของประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา จากความไม่แน่นอนในการดำเนินนโยบายซึ่งมีแนวโน้มที่จะส่งผลรุนแรงอย่างมากต่ออุตสาหกรรมไม่ว่าจะเป็นผลกระทบด้านบวก หรือด้านที่มีความเสี่ยงต่ออุตสาหกรรมในอนาคต
ปี 2017 ถือเป็นปีแรกในประวัติศาสตร์ที่อุตสาหกรรมอาหารของสหรัฐฯ อยู่ในกำมือของประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา จากความไม่แน่นอนในการดำเนินนโยบายซึ่งมีแนวโน้มที่จะส่งผลรุนแรงอย่างมากต่ออุตสาหกรรมไม่ว่าจะเป็นผลกระทบด้านบวก หรือด้านที่มีความเสี่ยงต่ออุตสาหกรรมในอนาคต
สิ่งที่ผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศของสหรัฐฯกังวลอย่างมากคือผลกระทบจากการดำเนินนโยบายบริหาร
ที่จะเกิดขึ้นกับกระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา (United States Department of Agriculture : USDA) และองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (Food and Drug Administration : FDA) ซึ่งจะส่งผลเกี่ยวเนื่องต่ออุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มทั้งระบบ ถึงแม้ว่าทรัมป์จะเป็นผู้สนับสนุนหลักที่จะทำให้อุตสาหกรรมเติบโตรวดเร็วยิ่งขึ้น นี้ได้แบ่งผลกระทบออกเป็น 2 ด้าน ได้แก่
นอกจากนี้ในปี 2560 ยังเป็นช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านก่อนที่กฎหมายการบังคับใช้ฉลากแบบใหม่ (Nutrition Facts panel) และ การบังคับติดฉลาก GMO จะมีผลบังคับใช้ ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการต้องเร่งปรับตัวก่อนมีการบังคับใช้กฎหมายจริงในปีหน้า
ความคิดเห็น
ผลกระทบและการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นไม่เพียงส่งผลเฉพาะผู้ประกอบการในสหรัฐฯเท่านั้น แต่จะส่งผลต่อเนื่องมายังผู้ส่งออกในอุตสาหกรรมอาหารของไทยอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบจากความเข้มงวดของการใช้กฎหมาย FSMA ที่จะทำให้ FDA มีสิทธิ์จะเข้ามาตรวจโรงงานของผู้ที่ยื่นขอใบอนุญาตส่งออกไปยังสหรัฐฯเมื่อไหร่ก็ได้ หรือการเปลี่ยนรูปแบบสลากบนสินค้าที่มีการกำหนดให้ระบุตัววัตถุดิบต่าง ๆ เพิ่มไปในฉลากซึ่งจะส่งผลต่อการผลิตสินค้าเพื่อการส่งออก ดังนั้นผู้ประกอบการไทยควรเตรียมพร้อมในการรับมือต่อมาตรการต่างๆเพื่อเป็นการป้องกันอุปสรรค์ที่จะเกิดขึ้นต่อธุรกิจในอนาคต
[1] FSMA (Food Safety Modernization Act : FSMA) กฎหมายว่าด้วยการปรับปรุงความปลอดภัยด้านอาหารให้ของสหรัฐฯ