มกราคม 2559
สาระสำคัญของข่าว
บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (TU) ผู้ผลิต แปรรูปปลาทูน่ากระป๋องรายใหญ่ที่สุดของโลก และเป็นเจ้าของแบรนด์อาหารทะเลชั้นนำทั่วโลก ประกาศทำสัญญาซื้อหุ้นส่วนใหญ่ของ “บริษัท รูเก้น ฟิช” (Rügen Fisch AG)
ผู้นำตลาดอาหารทะเลกระป๋องในประเทศเยอรมนี ภายใต้แบรนด์ฮาเว็สต้า (Hawesta) บริษัทมีกำหนดจะดำเนินการเข้าซื้อหุ้นให้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนมกราคม 2559 แต่ก็ขึ้นอยู่กับขั้นตอนการซื้อขายหุ้นในประเทศเยอรมันนี
รูเก้น ฟิช มีสำนักงานใหญ่อยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเยอรมนี และล่าสุดมีผลประกอบการสูงกว่า 140 ล้านยูโร หรือประมาณกว่า 5,600 ล้านบาท โดยมีผลิตภัณฑ์หลักคือปลาเฮอร์ริ่ง ปลาแมคเคอเรล และ ปลาแซลมอน ทั้งแบบสดและแช่เย็น จัดจำหน่ายไปยังห้างค้าปลีกชั้นนำทั่วประเทศเยอรมนีภายใต้แบรนด์หลักอย่างรูเก้น ฟิช (Rügen Fisch) ฮาเวสต้า (Hawesta) อ็อสต์เซย์ฟิช (Ostsee Fisch) ไลเซลล์ (Lysell) และ แบรนด์ OEM อีกมากมาย ปัจจุบันรูเก้นฟิชมีพนักงานกว่า 850 คนกระจายอยู่ในโรงงานที่ทันสมัยที่สุดถึงสามแห่งในประเทศเยอรมนีและลิธัวเนีย ด้านนายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ประเทศเยอรมนีนับเป็นตลาดอาหารทะเลที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป และเป็นหนึ่งในตลาดยุทธศาสตร์ที่สำคัญในภูมิภาคนี้ การเป็นหุ้นส่วนกับรูเก้น ฟิช จะส่งผลให้ไทยยูเนี่ยน กลายเป็นผู้นำตลาดในเยอรมนี และช่วยเสริมความแข็งแกร่งด้านการเป็นผู้นำอาหารทะเลในยุโรปของไทยยูเนี่ยน ยิ่งขึ้นไป”
Mr. Berthold Brinkmann ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาบริษัทรูเก้น ฟิช (Rügen Fisch AG) กล่าวเสริมว่า “รูเก้น ฟิช เป็นที่รู้จักกันอย่างดีและเป็นแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่งและมีประวัติความเป็นมาอันยาวนาน เราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าผลิตภัณฑ์คุณภาพระดับสากลของเรา ตลอดจนโรงงานผลิตที่ทันสมัย และระบบเครือข่ายการจัดจำหน่ายสินค้าที่ครอบคลุมพื้นที่การขายปลีกส่วนใหญ่ในประเทศเยอรมนี ทำให้เราเป็นหุ้นส่วนที่เหมาะสมอย่างยิ่งกับไทยยูเนี่ยน เราจะสามารถสร้างพันธมิตรด้านกลยุทธ์ที่จะช่วยสร้างฐานนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ปลาทูน่าในตลาดเยอรมนี
ความคิดเห็น
การเข้าควบซื้อกิจการของบริษัทไทยยูเนี่ยนมีประโยชน์เชิงยุทธศาสตร์สำหรับไทยยูเนี่ยน เนื่องจากปลาทูน่านับเป็นเซ็กเม้นท์ของตลาดอาหารทะเลที่มีการเติบโตมากที่สุด และยังมีศักยภาพในการเติบโตได้อีกมากถึงแม้ว่าเยอรมนีจะสามารถจับปลาและผลิตเองในประเทศได้หากแต่มีการนำเข้าอาหารทะเลสูงถึง 6 เท่า เยอรมนีมีการนำเข้าอาหารทะเลจากไทยเป็นจำนวนมาก จากการที่สองบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอาหารทะเลจากประเทศไทยและเยอรมนีร่วมหุ้นกันจะส่งผลให้ศักยภาพทางธุรกิจของบริษัทมีความแข็งแกร่งมากขึ้นและสามารถเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของทั้งสองบริษัท และเป็นช่องทางหนึ่งในการรักษาตลาดสินค้าปลาทูน่าของไทยหากไทยประสบปัญหา IUU การใช้แรงงานบังคับหรือมาตรฐานสิ่งแวดล้อม
ที่มา : EU Reporter. Thai Union to swallow German seafood leader Rügen Fisch. https://www.eureporter.co/frontpage/2015/12/22/thai-union-to-swallow-german-seafood-leader-rugen-fisch/. สืบค้นเมื่อ 26 มกราคม 2559.
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครแฟรงก์เฟิร์ต. สื่อเยอรมันคิดอย่างไรกับการที่บริษัท Thai Union เข้าถือหุ้นใหญ่ของ Rügen Fisch. http://www.ditp.go.th/contents_attach/140905/140905.pdf. สืบค้นเมื่อ 26 มกราคม 2559.
download PDF ย้อนกลับ