•    อเมริกาใต้ แหล่งผลิตกาแฟอันดับหนึ่งของโลก สามารถผลิตกาแฟได้ 3.8 ล้านตัน คิดเป็นร้อยละ 47 ของปริมาณผลผลิตกาแฟโลก ประเทศผู้ผลิตที่สำคัญคือ บราซิล (ผู้ผลิตกาแฟอันดับ 1 ของโลก) โคลัมเบีย (ผู้ผลิตกาแฟอันดับ 3 ของโลก) และเปรู ผลผลิตส่วนใหญ่เป็นกาแฟอาราบิก้า กาแฟที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักคือ “บราซิเลียน ซานโตส” (Brazillian Santos) ของบราซิล และ “ซูรีโม” (Suremo) จากภูเขาแอนดีสของโคลัมเบีย
•    เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สามารถผลิตกาแฟได้ 1.9 ล้านตัน คิดเป็นร้อยละ 23 ของปริมาณผลผลิตกาแฟโลก เป็นแหล่งผลิตกาแฟโรบัสต้าที่สำคัญของโลก สามารถผลิตกาแฟโรบัสต้าได้เดินกว่าครึ่งหนึ่งของผลผลิตกาแฟโรบัสต้าทั้งหมด ประเทศผู้ผลิตที่สำคัญคือ เวียดนาม (ผู้ผลิตกาแฟอันดับ 2 ของโลก) อินโดนิเซีย มาเลเซีย และไทย กาแฟที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จัก คือ “แมน-เฮลิง” ของเกาะสุมาตรา-อินโดนิเซีย และ “อันโกลา” ของชวา-อินโดนิเซีย
•    แอฟริกา  สามารถผลิตกาแฟได้ 0.83 ล้านตัน คิดเป็นร้อยละ 10ของปริมาณผลผลิตกาแฟโลก ผลผลิตมีทั้งอาราบิก้าและโรบัสต้า ประเทศผู้ผลิตที่สำคัญคือ เอธิโอเปีย ยูกันดา ไอเวอร์รี่-โคส และเคนยา กาแฟที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักคือ “คีรีมันจาโร” จากเทือกเขาคีรีมันจากโร ประเทศเคนยา กาแฟที่มีชื่อเสียงของเอธิโอเปีย คือ “ฮารา ลองเบอรี่” (Harrar Longberry) “ซีดาโม” (Sidamo) และ “คาฟฟา” (Kaffa)
•    อเมริกากลาง  สามารถผลิตกาแฟได้ 0.79 ล้านตัน คิดเป็นร้อยละ 9 ของปริมาณผลผลิตกาแฟโลก ผลผลิตส่วนใหญ่เป็นกาแฟอาราบิก้า ประเทศผู้ผลิตที่สำคัญคือ ฮอนดูรัส กัวเตมาลา คอสตาริก้า และเอลซาวาดอร์
สถานการณ์การผลิตกาแฟปี 2554 (ฤดูการผลิต 2553/54) ทั่วโลกผลิตได้ 8.18 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 0.58 ล้านตัน หรือขยายตัวร้อยละ 7.6 ซึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของประเทศผู้ผลิตกาแฟรายใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น บราซิล เวียดนาม โคลัมเบีย และเอธิโอเปีย เนื่องจากสภาพภูมิอากาศดีเหมาะแก่การติดผลของกาแฟ มีเพียงอินโดนิเซียซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตกาแฟอันดับ 3 ในตลาดโลกที่ผลผลิตลดลง เนื่องจากแหล่งผลิตที่สำคัญบริเวณเกาะสุมาตรา จาวา และ สุลาเวสีมีฝนตกหนักในช่วงฤดูเก็บเกี่ยวทำให้ผลผลิตกาแฟเสียหาย โดยผลผลิตลดลง 70,500 ตัน หรือลดลงร้อยละ 11.2 จากปีที่ผ่านมา