อุตสาหกรรมนม สถานการณ์ตลาดโลก
มิถุนายน 2557
การผลิตน้ำนมดิบ
ประเทศผู้ผลิตที่สําคัญของโลก คือสหภาพยุโรป (28 ประเทศ), สหรัฐอเมริกา, นิวซีแลนด์, อาร์เจน ติน่า และออสเตรเลีย โดยภาพรวมในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ปริมาณโคนมมีการเปลี่ยนแปลงไม่มากนัก เนื่องจากส่วนหนึ่งเป็นการทดแทนโคนมที่มีอยู่เดิมที่เริ่มให้น้ำนมต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานในการให้น้ำนม คุณภาพดี สําหรับปริมาณผลผลิตน้ำนม ต่อโคนม 1 ตัว ต่อปีนั้น มีการเปลี่ยนแปลงไม่มากนัก โดยในปี 2555 มีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 1.45 แต่ในปี 2556 คาดการณ์ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงลดลง เฉลี่ยร้อยละ 1.13
download PDF
สหภาพยุโรป มีจํานวนโคนมในปี 2555 จํานวน 23.051 ล้านตัว ลดลง จากปี 2554 ประมาณ 71,000 ตัว หรือลดลงคิดเป็นร้อยละ 0.31 ในขณะที่ตัวเลขคาดการณ์ในปี 2556 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย หรือเกือบจะคงที่ (เพิ่มประมาณ 1,000 ตัว) ด้วยจํานวนรวม 23.052 ล้านตัว นอกจากการที่จํานวนโคนมลดลงในปี 2555 และไม่มีการเพิ่มขึ้นอีกในปีต่อๆ มาแล้ว ความสามารถในการให้น้ำนมต่อโค 1 ตัว ยัง เพิ่มขึ้นไม่ถึงร้อยละ 1 ตั้งแต่ปี 2555 จนถึงการคาดการณ์ในปี 2556 และการพยากรณ์ในปี 2557 ด้วย ทั้ง ที่ก่อนหน้านี้มีความสามารถในการผลิตน้ำนมต่อโค 1 ตัว เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 - 5 มาโดยตลอด สําหรับภาพรวมปริมาณผลผลิตน้ำนมของสหภาพยุโรปมีปริมาณสูงสุดในกลุ่มผู้ผลิตน้ำนมโคของโลก โดยมีปริมาณ เพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปีนับตั้งแต่ปี 2553 โดยในปี 2553 และ 2554 มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องร้อยละ 1.33 และร้อยละ 2.03 ตามลําดับ แต่ปรับตัวต่อเนื่องอีกไม่มากนัก ในปี 2555 คิดเป็นร้อยละ 0.56 จาก จํานวน 138.22 ล้านตัน ในปี 2554 เป็น 139.00 ล้านตัน เนื่องจากปริมาณความต้องการบริโภคในกลุ่ม EU ลดลง ประกอบกับราคาน้ํานมดิบลดต่ำลงในช่วงไตรมาสแรกของปี 2555 ในขณะที่ต้นทุนการผลิตทั้งอาหาร สัตว์ และพลังงานสูงขึ้น, การส่งออกชะลอตัว, ฤดูร้อนที่ค่อนข้างแล้ง, ฤดูหนาวที่ยาวนาน และฤดูใบไม้ผลิ ที่มาช้ากว่าทุกปี, รวมถึงปัญหาจากประเทศสมาชิก ซึ่งพบว่ามีบางประเทศสมาชิกปรับลดการผลิตน้ํานมโค หันไปผลิตน้ํานมแพะ และน้ํานมแกะเพิ่มขึ้นทดแทน (ฝรั่งเศส), บางประเทศผลิตเกินโควต้าที่กำหนดทําให้ เสียค่าปรับ (ไอร์แลนด์, เนเธอร์แลนด์, เดนมาร์ค, เยอรมัน และอิตาลี) และวิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจใน ประเทศกลุ่มสมาชิก ทําให้ต้องมีการควบคุมปริมาณการผลิตไม่ให้มากเกินไป ทําให้แหล่งผลิตที่มีประสิทธิภาพต่ำต้องเลิกผลิตน้ำนมออกสู่ตลาด เป็นการคัดกรอง และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันได้ในอนาคต ทั้งนี้จะมีการปรับลดปริมาณโคนม แต่ปรับเพิ่มผลผลิตน้ำนมต่อแม่โคให้มากขึ้นเป็นการทดแทน คาดการณ์ปริมาณน้ำนมในปี 2556 เป็น 139.10 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 0.07 และพยากรณ์ว่า จะสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นในปี 2557 อีกร้อยละ 0.65 เป็น 140.00 ล้านตัน ส่วนหนึ่งมากจากการมีสมาชิก ใหม่คือโครเอเชีย ซึ่งมีโคนม 181,000 ตัว มีผลผลิตน่ำนมรวม 0.60 ล้านตัน
สหรัฐอเมริกา มีจํานวนโคนมในปี 2555 จํานวน 9.233 ล้านตัว ปรับเพิ่มขึ้นจากปี 2554 จํานวน 9.194 ล้านตัว หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 0.42 และคาดการณ์ว่าในปี 2556 ปริมาณโคนมจะลดลงร้อยละ 0.14 หรือ 13,000 ตัว เหลือจํานวนโคนม 9.220 ล้านตัว ทั้งนี้ความสามารถในการผลิตน้ำนมต่อโคนมมี