มิถุนายน 2564
ตลาดอาหารพร้อมรับประทานในปี 2563 มีมูลค่า 21,507 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 14,673 ล้านบาทเมื่อ ปี 2559 คิดเป็นอัตราขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 10.0 ต่อปี โดยมีปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญคือ การขยายตัวของสังคมเมืองซึ่งมีรูปแบบการดำเนินชีวิตที่เร่งรีบ ต้องการความรวดเร็วและสะดวกสบาย ประกอบกับครอบครัวมีขนาดเล็กลงและ มีแนวโน้มที่จะอยู่คนเดียวกันมากขึ้น จึงไม่ให้ความสำคัญต่อการทำอาหารรับประทานเองที่บ้าน ขณะที่อาหาร พร้อมรับประทานมีหลากหลายมากขึ้น สนองต่อความต้องการของผู้บริโภคทั้งในแง่ของความสะดวกและประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น ปราศจากผงชูรส วัตถุกันเสีย และมีส่วนผสมจากธรรมชาติ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสนองความต้องการของผู้บริโภคเฉพาะกลุ่ม เช่น อาหารเจ อาหารฮาลาล อาหารสำหรับผู้สูงอายุ เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมให้ตลาดอาหารพร้อมรับประทานเติบโตอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม การที่ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวส่งผลกระทบโดยตรงต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค และการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ผู้บริโภคส่วนหนึ่งหันมาทำอาหารรับประทานเองที่บ้านเพิ่มขึ้น นับเป็นความท้าทายของผู้ประกอบการในธุรกิจอาหารพร้อมรับประทาน โดยเฉพาะปี 2564 นี้ที่การแพร่ระบาดมีความรุนแรงมากกว่าปีที่ผ่านมา
หากพิจารณาความนิยมอาหารพร้อมรับประทานของผู้บริโภคชาวไทยตามเชื้อชาติ พบว่า อาหารไทยได้รับความนิยมมากที่สุด โดยครองส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 45.0 รองลงมาคือ อาหารจีนร้อยละ 28.9 อาหารอิตาลีร้อยละ 10.7 อาหารญี่ปุ่นร้อยละ 6.3 และที่เหลือ 9.1 เป็นชาติอื่นๆ เช่น มาเลเซีย เกาหลีใต้
download PDF ย้อนกลับ