มกราคม 2560
1. ภาพรวมตลาดอาหารเวียดนาม เวียดนามเป็นตลาดอาหารที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมากจากนักธุรกิจทั่วโลก โดยในปี 2556 ตลาดอาหารในเวียดนามมีมูลค่า 43,600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คาดว่าจะเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ร้อยละ 13 ในระยะ 5 ปีข้างหน้า ปัจจัยสนับสนุนสำคัญมาจากจำนวนประชากรเวียดนามที่สูงถึง 92 ล้านคน สูงที่สุดอันดับที่ 3 ในอาเซียน ภาวะเศรษฐกิจเวียดนามขยายตัวร้อยละ 6 ต่อปี สูงที่สุดอันดับที่ 4 ในอาเซียน นับเป็นแรงจูงใจด้านการตลาดที่สำคัญของนักธุรกิจ (Market seeking) ประกอบกับประชากรส่วนใหญ่ของประเทศกว่าร้อยละ 70 เป็นวัยผู้ใหญ่และคนหนุ่มสาววัยทำงานเป็นหลัก รวมทั้งอัตราค่าจ้างแรงงานที่อยู่ในระดับต่ำ เป็นปัจจัยสำคัญที่ดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติในทุกสาขาอุตสาหกรรม ซึ่งอุตสาหกรรมอาหารเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมสำคัญของเวียดนามที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วจากปัจจัยเอื้อดังกล่าว
1.1 พฤติกรรมการบริโภค
ในอดีตเวียดนามเคยแบ่งเป็นเวียดนามเหนือและเวียดนามใต้ ทำให้พฤติกรรมหลาย ๆ อย่างของประชากรในภาคเหนือและภาคใต้มีความแตกต่างกันมาก เช่น คนเวียดนามเหนืออย่างฮานอยจะมีความเป็นศิลปิน แต่อยู่ในกฎระเบียบ มีไลฟ์สไตล์ที่มีรสนิยม ชอบเก็บหอมรอมริบ และมีความจงรักภักดีต่อแบรนด์สูง คนฮานอยจะมีลักษณะเป็นคน “ไฮโซ” แต่งตัวดีสไตล์ K-Pop มีผู้มีรายได้สูงจำนวนมากโดยเฉพาะข้าราชการ ทำให้มีกำลังซื้อสูง สินค้าราคาแพงคุณภาพดีสามารถขายได้ในเวียดนาม เช่น รักนก ซุปไก่สกัด ส่วนคนเวียดนามใต้อย่างโฮจิมินห์จะมีความกระตือรือร้น ค้าขายเก่ง ชอบลองสินค้าใหม่ ๆ โดยเปลี่ยนแบรนด์ไปเรื่อย ๆ
จากประวัติศาสตร์ของชาวเวียดนามที่เคยตกอยู่ภายใต้การปกครองของจีนมากว่า 1,000 ปี ก่อนที่จะมาเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศส และสู้รบกับสหรัฐอเมริกาในสงครามเวียดนาม ทำให้พฤติกรรมการบริโภคอาหารของชาวเวียดนามมีความคล้ายคลึงกับชาวจีนมาก โดยในกลุ่มเวียดนามตอนเหนือนิยมรับประทานอาหารรสชาติอ่อน นิยมดื่มชาและกาแฟ รวมถึงสมุนไพร เช่น พุทราจีน ขิง น้ำผลไม้ที่นิยม ได้แก่ มะนาว เกรฟฟรุต พีช สตรอเบอร์รี่ ส่วนในกลุ่มเวียดนามตอนใต้นิยมดื่มน้ำมะพร้าว น้ำอ้อย และน้ำบ๊วย ลักษณะการดื่มเครื่องดื่มของชาวเวียดนามจะแตกต่างกันใน 2 ลักษณะคือ ชาวเวียดนามทางตอนใต้แถบโฮจิมินห์ จะดื่มเครื่องแบบเย็นใส่น้ำแข็ง เพราะอยู่ในพื้นที่อากาศร้อนคล้ายไทย ขณะที่ชาวเวียดนามทางตอนเหนือแถบฮานอย จะดื่มเครื่องดื่มแบบร้อนเพราะอากาศหนาว โดยเครื่องดื่มส่วนใหญ่มีกลิ่นรสอ่อนและมีส่วนผสมของสมุนไพรจีนเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งชาวเวียดนามยังไม่ค่อยคุ้นเคยกับรสชาติของเครื่องดื่มแบบไทย
เวียดนามมีรูปแบบการบริโภคกาแฟแบบดั้งเดิม คือ บดและชงสด โดยมีรสชาติเข้มข้นมาก ๆ ดังนั้น ตลาดกาแฟสำเร็จรูปในเวียดนามยังไม่โตมากนักทั้งที่เป็นผู้ผลิตและส่งออกกาแฟอันดับ 1 ของโลก ในขณะเดียวกันคนเวียดนามก็นิยมบริโภคชาพร้อมดื่มและเครื่องดื่มแบบเอเชีย ซึ่งเป็นรูปแบบการบริโภคสินค้าแบบดั้งเดิมของเวียดนาม โดยอิทธิพลของเครื่องดื่มต่างประเทศยังไม่ได้เข้ามามากนัก นอกจากนี้ คนเวียดนามยังนิยมดื่มเบียร์มาก โดยนิยมดื่มคู่กับอาหารทะเลและขนมขบเคี้ยว เช่น ถั่วลิสงคั่ว ขนมอบกรอบของไทยอย่างฮานามิ จึงเป็นโอกาสของไทยในสินค้ากลุ่มนี้ นอกจากนี้ ชาวเวียดนามยังชอบดูกีฬาฟุตบอลมากทั้งผู้หญิงและผู้ชาย อาจใช้เป็นสื่อในการโฆษณาสินค้าได้ ส่วนพฤติกรรมการบริโภคเนื้อสัตว์นั้น คนเวียดนามไม่นิยมบริโภคไก่เนื้อเละ ๆ ชอบไก่บ้านเหมือนคนไทยสมัยก่อน ไก่ชื่อดังของไฮฟองชื่อว่า “กามัยแฮง”
1.2 พฤติกรรมการจับจ่าย
คนเวียดนามตอนเหนือเป็นคนประหยัด และใช้เวลาในการตัดสินใจซื้อนาน โดยเฉพาะของที่ซื้อให้กับตัวเอง แต่ถ้าเป็นของที่ซื้อเพื่อเป็นของกำนัลแล้วไม่คิดมาก แพงเท่าไรก็ซื้อ จะสังเกตว่ามีห้างสรรพสินค้าหรูชื่อ Vincom ขายของแบรนด์เนม ซึ่งก็ขายดีมาก ๆ โดยทั่วไปชาวเวียดนามนิยมจ่ายกับข้าวทุกวัน ไม่มีการกักตุนอาหารไว้รับประทานนาน ๆ แม้ส่วนใหญ่จะมีตู้เย็นไว้ที่บ้าน แต่รูปแบบการใช้มีลักษณะเหมือนตู้กับข้าว คือ ใช้สำหรับเก็บอาหารไว้รับประทานภายใน 1-2 วันเท่านั้น นอกจากนี้คนเวียดนามยังคงนิยมซื้อของจากร้านค้าย่อยที่กระจายอยู่ในแหล่งชุมชนที่มีลักษณะเหมือนร้านขายของชำในต่างจังหวัดของไทยซึ่งมีเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ชาวเวียดมีสายเลือดของนักค้าขาย ชอบเป็นเจ้าของธุรกิจไม่ชอบเป็นลูกจ้างใคร อาชีพค้าขายถือเป็นงานหลักและงานรองที่ต้องมี
download PDF ย้อนกลับ