กุมภาพันธ์ 2565
ผลพวงจากการใช้กองกำลังบุกยูเครนของรัสเซีย ทำให้นานาชาติต่างทยอยออกมาตรการคว่ำบาตรทางการรัสเซียอย่างต่อเนื่อง โดยสหรัฐอเมริกาห้ามส่งออกเทคโนโลยีและอุปกรณ์สื่อสาร และงดเว้นการให้สินเชื่อกับรัฐวิสาหกิจสำคัญของรัสเซีย สหภาพยุโรประงับการส่งออกสินค้าและอุปกรณ์เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน ก๊าชธรรมชาติ และโรงกลั่น รวมถึงควบคุมการส่งออกและห้ามดำเนินธุรกรรมการเงินกับรัสเซีย สหราชอาณาจักรงดเว้นการให้สินเชื่อแก่บริษัทขนาดใหญ่ของรัสเซีย และยุติการให้บริการสายการบินแห่งชาติของรัสเซีย (Aeroflot) ขณะที่หลายชาติในเอเชียต่างทยอยออกมาตรการคว่ำบาตรทางการรัสเซียไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน โดยญี่ปุ่นมีการอายัดทรัพย์สินของชาวรัสเซียที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการร์การบุกรุกยูเครน เกาหลีใต้สนับสนุนให้ตัดธนาคารของรัสเซียออกจากระบบเครือข่ายการเงินระดับโลก (SWIFT) และสิงคโปร์ควบคุมธุรกิจการเงินกับรัสเซีย เป็นต้น
ความวิตกกังวลเกิดขึ้นทั่วโลก ตลาดเงินตลาดทุนปั่นป่วน ตัวเลขเศรษฐกิจผันผวนรุนแรง
ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลทำให้สินทรัพย์เสี่ยงต่างๆ ถูกลดน้ำหนักลง ดัชนีราคาหุ้นทั่วโลกถูกเทขายอย่างหนัก ขณะเดียวกันนักลงทุนมีการเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น ทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ เงินเยนญี่ปุ่นปรับตัวแข็งค่า ราคาทองคำพุ่งขึ้น 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ แตะระดับ 1,975 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ เพียงชั่วข้ามคืน
เช่นเดียวกับราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีรัสเซียและยูเครนเป็นผู้ผลิตและส่งออกสำคัญต่างปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะราคาน้ำมันดิบทะยานเหนือระดับ 120 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล สูงสุดครั้งใหม่ในรอบเกือบ 14 ปี และยังพุ่งขึ้นไม่หยุด ราคาพืชอาหารอย่างข้าวสาลีที่เพิ่มขึ้น 20% ส่งผลทำให้สินค้าทดแทนต่างปรับตัวขึ้นตามยกแผง ไม่ว่าจะเป็นราคาข้าวโพด ราคาถั่วเหลือง กดดันราคาสินค้าทั่วโลกให้พุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง
.............................
download PDF ย้อนกลับ