เมษายน 2559
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา การทำธุรกิจผ่านออนไลน์ (E-Commerce) ได้กลายเป็นกระแสนิยมทั่วโลก และมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จุดเด่นของธุรกิจนี้ คือ สามารถเพิ่มและขยายช่องทางในการจัดจำหน่ายสินค้าและบริการ ประชาสัมพันธ์สินค้าหรือบริการให้แพร่หลายมากขึ้น ประหยัดค่าใช้จ่าย และเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ สำหรับการทำธุรกิจผ่านออนไลน์ (E-Commerce)
ในจีนนั้นเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานหากเทียบกับประเทศอื่น หากแต่มีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็วด้วยระบบการให้บริการที่ครบวงจร ปัจจุบันตลาดจีนเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูงและเป็นตลาดใหญ่ เมื่อชาวจีนทั้งในเมืองและในชนบทนิยมใช้บริการซื้อสินค้าออนไลน์เพิ่มมากขึ้น ข้อมูลจากสภาส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศของจีน ระบุว่า จีนกลายเป็นตลาดค้าปลีกออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เช่นเดียวกับรายงานของศูนย์ข้อมูลสารสนเทศและโครงข่ายอินเตอร์เน็ตแห่งชาติจีน (China Internet Network Information Center – CNNIC) ระบุว่า ในปี 2558 จำนวนผู้ใช้อินเตอร์เน็ตในประเทศจีนสูงถึง 688 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2557 ที่ร้อยละ 2.4 โดยร้อยละ 33.8 เป็นการเปิดตัวตลาดออนไลน์และการส่งเสริมการขาย จึงทำให้มีการคาดการณ์ว่าจีนจะเป็นตลาด E-commerce ที่ใหญ่ที่สุดของโลกแซงหน้าสหรัฐอเมริกา และภายในปี 2020 ตลาด E-commerce ของจีนจะมีขนาดใหญ่กว่าตลาดของสหรัฐอเมริกา อังกฤษ ญี่ปุ่น เยอรมัน และฝรั่งเศลรวมกันอีกด้วย และถือเป็นปรากฏการณ์ที่จะเปลี่ยนแปลงรูปแบบการค้าที่สำคัญของจีน1
การเติบโตของธุรกิจออนไลน์ (E-Commerce)
การเติบโตของธุรกิจออนไลน์ (E-Commerce) ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจออนไลน์ในรูปแบบ business to consumer (B2C) ที่ผู้บริโภคต้องการสินค้าที่มีคุณภาพที่ดีมากขึ้น และมีบริการหลังการขาย จึงถูกมองว่าจะเป็นช่องทางใหม่ของสินค้าและบริการของไทยในการเข้าไปเจาะตลาดจีน โดยหวังจะใช้เป็น “ช่องทางลัด” ที่ประหยัดค่าใช้จ่ายในการส่งสินค้าตรงจากไทยไปเจาะกลุ่มผู้บริโภคออนไลน์จีน อีกทั้งยังเป็นช่องทางที่สามารถนำเสนอสินค้าแก่ชาวจีนได้ 24 ชั่วโมง ครอบคลุมไปทั่วทุกเมือง/มณฑลจีน แม้ว่าเศรษฐกิจจีนจะมีทิศทางชะลอตัว แต่ชาวจีนกลับไม่ได้ลดการบริโภคสินค้าและบริการลงอย่างที่คาดการณ์ไว้ โดยเฉพาะผู้ที่มีรายได้ปานกลางและสูง โดยชาวจีนมีแนวโน้มเลือกซื้อสินค้าประเภทกึ่งจำเป็นและฟุ่มเฟือยมากขึ้น โดยอัตราการใช้งานของช่องทางการตลาดบนอินเตอร์เน็ต ปี 2558 ร้อยละ 64.7 เป็นการใช้เครื่องมือที่มีระบบส่งข้อความทันที เช่น LINE, WeChat รองลงมาร้อยละ 48.4 เป็นระบบธุรกิจออนไลน์ (E-Commerce) เช่น เว็บไซต์ อาลีบาบา (Alibaba) เว็บไซต์เถาเป่า (www.taobao.com) เว็บไซต์ตังตัง (www.dangdang.com) เว็บไซต์ (www.amazon.cn) เว็บไซต์ 360buy.com เป็นต้น
download PDF ย้อนกลับ