เมษายน 2555
รายงานสถานการณ์อุตสาหกรรมอาหารไทยรายเดือน
เมษายน 2555
จำนวนโรงงาน ที่ไดเริ่มประกอบกิจการในเดือนมีนาคม 2555 มี จํานวน 26 โรงงาน อยูบริเวณภาคกลาง 14 โรงงาน รองลงมาคือภาค อีสาน 4 โรงงาน และภาคเหนือ 3 โรงงาน สวนภาคใต และตะวันออก มี ภาคละ 2 โรงงาน ขณะที่ภาคตะวันตกมี 1 โรงงาน โดยมีลักษณะการ ผลิตแบงออกเปน การผลิตและแปรรูปพืชผลทางการเกษตร 12 โรงงาน ผลิตเนื้อสัตวแปรรูป 2 โรงงาน ผลิตเครื่องปรุงรส และผลิตน้ําแข็ง/น้ํา ดื่ม มีอยางละ 2 โรงงาน สวนการผลิตขนมปง ผลิตเสนกวยเตี๋ยว/บะหมี่ ผลิตอาหารสัตว ผลิตน้ําตาลกอน ผลิตน้ําผลไม และผลิตน้ํานมสด มี อยางละ 1 โรงงาน จากจํานวนโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการใหมทั้งหมด มีมูลคาเงินลงทุนรวม 686 ลานบาท โดยสัดสวนรอยละ 77.18 อยูใน บริเวณภาคกลาง มีผลทําใหเกิดการจางงานเพิ่มข้ึนจํานวน 497 คน สําหรับจํานวนโรงงานที่เลิกประกอบกิจการ ในเดือนมีนาคม 2555 มี จํานวน 12 โรงงาน อยูบริเวณภาคกลาง และเหนือมีภาคละ 5 โรงงาน รองลงมาคือภาคอีสาน 2 โรงงาน สวนภาคตะวันตก และใต มีภาคละ 2 โรงงาน มูลคาเงินลงทุนรวม 178 ลานบาท โดยสัดสวนรอยละ 40.82 อยูในบริเวณภาคกลาง และมีการเลิกจางงานเพิ่มขึ้นจํานวน 230 คน ภาคอุตสาหกรรมอาหารในชวงเดือนกุมภาพันธ 2555 มีโครงการที่ไดรับอนุมัติใหการสงเสริมเปนจํานวนทั้งสิ้น 13 โครงการ เงินลงทุนมูลคารวม 2,717 ลานบาท มีการจางงานจํานวน 1,378 คน เมื่อเทียบชวงเดียวกันของปกอน พบวาโครงการไดรับอนุมัติ มีจํานวนลดลง 7 โครงการ มีมูลคาเงินลงทุนรวมลดลง 83 ลานบาท และมีการจางงานลดลง 65 คนโดยรวมเงินลงทุนสวนใหญอยูในบริเวณ ภาคเหนือ มีมูลคารวม 1,200 ลานบาท (สัดสวน 44.17% ของเงินลงทุน ทั้งหมด) และมีมากสุดอยูที่จังหวัดลําพูน ผลิตเนื้อสัตวแปรรูป รองลงมา คือกรุงเทพฯ ผลิตอาหารพรอมรับประทาน และปราจีนบุรี ผลิตขนมขบ เคี้ยว สวนการจางงานมากสุดอยูที่จังหวัดกาญจนบุรี มีจํานวน 330 คน (สัดสวน 23.95% ของการจางงานทั้งหมด) รองลงมาคือชลบุรี มี จํานวน 287 คน (20.83%) และลําพูน มีจํานวน 244 คน (17.71%) ดวยจํานวนโครงการทั้งหมดท่ีมีการลงทุนในเดือนกุมภาพันธ พบ การผลิตและแปรรูปพืชผลทางการเกษตรมีถึง 5 โครงการซึ่งเปน การผลิตและแปรรูปในกลุมสินคาขาวทั้งหมด
รายงานสถานการณ์อุตสาหกรรมอาหารไทยรายเดือน
เมษายน 2555
จำนวนโรงงาน ที่ไดเริ่มประกอบกิจการในเดือนมีนาคม 2555 มี จํานวน 26 โรงงาน อยูบริเวณภาคกลาง 14 โรงงาน รองลงมาคือภาค อีสาน 4 โรงงาน และภาคเหนือ 3 โรงงาน สวนภาคใต และตะวันออก มี ภาคละ 2 โรงงาน ขณะที่ภาคตะวันตกมี 1 โรงงาน โดยมีลักษณะการ ผลิตแบงออกเปน การผลิตและแปรรูปพืชผลทางการเกษตร 12 โรงงาน ผลิตเนื้อสัตวแปรรูป 2 โรงงาน ผลิตเครื่องปรุงรส และผลิตน้ําแข็ง/น้ํา ดื่ม มีอยางละ 2 โรงงาน สวนการผลิตขนมปง ผลิตเสนกวยเตี๋ยว/บะหมี่ ผลิตอาหารสัตว ผลิตน้ําตาลกอน ผลิตน้ําผลไม และผลิตน้ํานมสด มี อยางละ 1 โรงงาน จากจํานวนโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการใหมทั้งหมด มีมูลคาเงินลงทุนรวม 686 ลานบาท โดยสัดสวนรอยละ 77.18 อยูใน บริเวณภาคกลาง มีผลทําใหเกิดการจางงานเพิ่มข้ึนจํานวน 497 คน สําหรับจํานวนโรงงานที่เลิกประกอบกิจการ ในเดือนมีนาคม 2555 มี จํานวน 12 โรงงาน อยูบริเวณภาคกลาง และเหนือมีภาคละ 5 โรงงาน รองลงมาคือภาคอีสาน 2 โรงงาน สวนภาคตะวันตก และใต มีภาคละ 2 โรงงาน มูลคาเงินลงทุนรวม 178 ลานบาท โดยสัดสวนรอยละ 40.82 อยูในบริเวณภาคกลาง และมีการเลิกจางงานเพิ่มขึ้นจํานวน 230 คน ภาคอุตสาหกรรมอาหารในชวงเดือนกุมภาพันธ 2555 มีโครงการที่ไดรับอนุมัติใหการสงเสริมเปนจํานวนทั้งสิ้น 13 โครงการ เงินลงทุนมูลคารวม 2,717 ลานบาท มีการจางงานจํานวน 1,378 คน เมื่อเทียบชวงเดียวกันของปกอน พบวาโครงการไดรับอนุมัติ มีจํานวนลดลง 7 โครงการ มีมูลคาเงินลงทุนรวมลดลง 83 ลานบาท และมีการจางงานลดลง 65 คนโดยรวมเงินลงทุนสวนใหญอยูในบริเวณ ภาคเหนือ มีมูลคารวม 1,200 ลานบาท (สัดสวน 44.17% ของเงินลงทุน ทั้งหมด) และมีมากสุดอยูที่จังหวัดลําพูน ผลิตเนื้อสัตวแปรรูป รองลงมา คือกรุงเทพฯ ผลิตอาหารพรอมรับประทาน และปราจีนบุรี ผลิตขนมขบ เคี้ยว สวนการจางงานมากสุดอยูที่จังหวัดกาญจนบุรี มีจํานวน 330 คน (สัดสวน 23.95% ของการจางงานทั้งหมด) รองลงมาคือชลบุรี มี จํานวน 287 คน (20.83%) และลําพูน มีจํานวน 244 คน (17.71%) ดวยจํานวนโครงการทั้งหมดท่ีมีการลงทุนในเดือนกุมภาพันธ พบ การผลิตและแปรรูปพืชผลทางการเกษตรมีถึง 5 โครงการซึ่งเปน การผลิตและแปรรูปในกลุมสินคาขาวทั้งหมด
ภาพรวมภาวะการผลิต
อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ในเดือนกุมภาพันธ 2554 ปรับตัวเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับชวง เดียวกันของปกอน โดยมีอัตราการใชกําลังการผลิตอยูที่ระดับ 59.05 ปรับเพิ่มขึ้นรอยละ 14.12 ในกลุมสินคาที่มีอัตราการใช กําลังการผลิตปรับเพิ่มขึ้นที่สําคัญ ไดแก อาหารปลาสําเร็จรูป (ปรับเพิ่มขึ้นรอยละ 68.36) อาหารไกสําเร็จรูป (32.77) แปงมัน สําปะหลัง (30.70) อาหารกุงสําเร็จรูป (26.00) อาหารสุกร สําเร็จรูป (22.39) น้ํามันปาลมบริสุทธิ์ (21.97) เนื้อไกแชแข็ง และแชเย็น (19.96) ผงชูรส (19.43) และสับปะรดกระปอง (13.06) ตามลําดับ สําหรับสินคาที่มีอัตราการใชกําลังการผลิต ปรับลดลง ไดแก น้ํามันถั่วเหลืองบริสุทธิ์ (ลดลงรอยละ 53.73) นมพรอมดื่ม (24.45) ปลาทูนากระปอง (3.97) และกุงแชแข็ง (1.99) ตามลําดับ ดวยกําลังการผลิตที่เพิ่มข้ึนในกลุมสินคา ดังกลาว สงผลทําใหดัชนีผลผลิต (ถวงน้ําหนักมูลคาเพิ่ม) อุตสาหกรรมอยูที่ระดับ 170.80 เพิ่มขึ้นรอยละ 14.94 จากชวง เดียวกันของปกอน และจากผลผลิตโดยรวมในกลุมสินคาที่ปรับ เพิ่มขึ้น สะทอนภาพความตองการของตลาดที่ปรับเพิ่มขึ้นใน กลุมสินคาอาหารสัตว น้ํามันปาลมบริสุทธิ์ แปงมันสําปะหลัง เนื้อไกแชแข็งและแชเย็น สับปะรดกระปอง และน้ําตาลทราย โดยดัชนีการสงสินคาปรับเพิ่มขึ้นรอยละ 15.73 อยูที่ระดับ 149.88 ขณะที่ดัชนีสินคาสําเร็จรูปคงคลังปรับเพิ่มขึ้นรอยละ 14.55 จากชวงเดียวกันของปกอน โดยอยูที่ระดับ 224.69จาก อัตราการใชกําลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งปริมาณสินคาคงคลัง ที่มีสะสมกอนหนา สงผลใหสินคาในกลุมที่สําคัญปรับเพิ่มขึ้น ไดแก สับปะรดกระปอง (เพิ่มขึ้นรอยละ 235.50) น้ําผลไม (181.91) น้ํามันปาลมบริสุทธิ์ (80.70) เนื้อไกแชแข็งและแชเย็น (70.13) อาหารปลาสําเร็จรูป (47.48) นมพรอมดื่ม (45.78) น้ํามันถั่วเหลืองบริสุทธิ์ (43.48) แปงมันสําปะหลัง (39.71) และ น้ําตาลทรายดิบ (23.77) ดวยปริมาณวัตถุดิบที่มีเพิ่มขึ้น อีกทั้ง ความตองการที่มีในตลาด สงผลใหสินคาคงคลังปรับเพิ่มสูงขึ้น
download PDF ย้อนกลับ