กรกฎาคม 2555
รายงานสถานการณ์อุตสาหกรรมอาหารไทยรายเดือน
กรกฎาคม 2555
จำนวนโรงงาน
ที่ไดเริ่มประกอบกิจการในเดือนมิถุนายน 2555 มี จํานวน 11 โรงงาน อยูบริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคอีสาน มี อยางละ 3 โรงงาน และภาคใต มี 2 โรงงาน โดยมีลักษณะการผลิตแบง ออกเปนการผลิตและแปรรูปพืชผลทางการเกษตร 6 โรงงาน สําหรับ การผลิตน้ําผักผลไมสําเร็จรูป ผลิตเครื่องปรุงรส และผลิตน้ําแข็ง/น้ําดื่ม มีอยางละ 1 โรงงาน จากจํานวนโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการใหม ทั้งหมด มีมูลคาเงินลงทุนรวม 216 ลานบาท โดยสัดสวนรอยละ 33.10 อยูในบริเวณภาคอีสาน และมีผลทําใหเกิดการจางงานเพิ่มขึ้นจํานวน 160 คน โดยอยูในบริเวณภาคกลางมากที่สุด มีจํานวน 98 คน คิดเปน รอยละ 61.25 ของการจางงานใหมทั้งหมด สําหรับจํานวนโรงงานที่เลิก ประกอบกิจการในเดือนมิถุนายน 2555 มีจํานวน 12 โรงงาน อยูบริเวณ ภาคอีสาน มี 6 โรงงาน ภาคกลางและภาคตะวันออก มีอยางละ 2 โรงงาน สวนภาคเหนือและภาคตะวันตก มีอยางละ 1 โรงงาน มูลคาเงิน ลงทุนรวม 122 ลานบาท โดยสัดสวนรอยละ 69.26 อยูในบริเวณภาค ตะวันออก และมีการเลิกจางงานเพิ่มขึ้นจํานวน 242 คน โดยอยูใน บริเวณภาคตะวันตกมากที่สุด มีจํานวน 100 คน คิดเปนรอยละ 41.32
ภาคอุตสาหกรรมอาหารในชวงเดือนมกราคมพฤษภาคม 2555 มีโครงการที่ไดรับอนุมัติใหการสงเสริมเปนจํานวน ทั้งสิ้น 72 โครงการ เงินลงทุนมูลคารวม 18,300 ลานบาท มีการจางงาน จํานวนรวม 12,879 คน สําหรับเดือนพฤษภาคม 2555 มีโครงการที่ ไดรับอนุมัติใหการสงเสริมทั้งสิ้น 14 โครงการ เงินลงทุนรวม 4,880 ลานบาท มีการจางงานรวม 6,652 คน เมื่อเทียบชวงเดียวกันของปกอน พบวาโครงการไดรับอนุมัติไมมีการเปลี่ยนแปลง แตมีมูลคาเงินลงทุน รวมเพิ่มขึ้น 1,857 ลานบาท และมีการจางงานเพิ่มขึ้น 4,637 คน โดยรวมเงินลงทุนสวนใหญอยูในบริเวณภาคตะวันออก มีมูลคารวม 2,808 ลานบาท (สัดสวนรอยละ 57.54 ของเงินลงทุนทั้งหมด) โดยเงิน ลงทุนมีมากที่สุดอยูจังหวัดชลบุรี (มูลคา 2,385 ลานบาท) ผลิตซุบไก สกัดชนิดน้ํา/เม็ด รองลงมาคือพัทลุง (มูลคา 500 ลานบาท) ผลิตไกสด แชแข็ง สวนการจางงานมากสุดอยูที่จังหวัดสงขลา มีจํานวน 2,100 คน (สัดสวนรอยละ 31.57 ของการจางงานทั้งหมด) รองลงมาคือกาญจนบุรี มีจํานวน 1,011 คน (รอยละ 15.20)
รายงานสถานการณ์อุตสาหกรรมอาหารไทยรายเดือน
กรกฎาคม 2555
จำนวนโรงงาน
ที่ไดเริ่มประกอบกิจการในเดือนมิถุนายน 2555 มี จํานวน 11 โรงงาน อยูบริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคอีสาน มี อยางละ 3 โรงงาน และภาคใต มี 2 โรงงาน โดยมีลักษณะการผลิตแบง ออกเปนการผลิตและแปรรูปพืชผลทางการเกษตร 6 โรงงาน สําหรับ การผลิตน้ําผักผลไมสําเร็จรูป ผลิตเครื่องปรุงรส และผลิตน้ําแข็ง/น้ําดื่ม มีอยางละ 1 โรงงาน จากจํานวนโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการใหม ทั้งหมด มีมูลคาเงินลงทุนรวม 216 ลานบาท โดยสัดสวนรอยละ 33.10 อยูในบริเวณภาคอีสาน และมีผลทําใหเกิดการจางงานเพิ่มขึ้นจํานวน 160 คน โดยอยูในบริเวณภาคกลางมากที่สุด มีจํานวน 98 คน คิดเปน รอยละ 61.25 ของการจางงานใหมทั้งหมด สําหรับจํานวนโรงงานที่เลิก ประกอบกิจการในเดือนมิถุนายน 2555 มีจํานวน 12 โรงงาน อยูบริเวณ ภาคอีสาน มี 6 โรงงาน ภาคกลางและภาคตะวันออก มีอยางละ 2 โรงงาน สวนภาคเหนือและภาคตะวันตก มีอยางละ 1 โรงงาน มูลคาเงิน ลงทุนรวม 122 ลานบาท โดยสัดสวนรอยละ 69.26 อยูในบริเวณภาค ตะวันออก และมีการเลิกจางงานเพิ่มขึ้นจํานวน 242 คน โดยอยูใน บริเวณภาคตะวันตกมากที่สุด มีจํานวน 100 คน คิดเปนรอยละ 41.32
ภาคอุตสาหกรรมอาหารในชวงเดือนมกราคมพฤษภาคม 2555 มีโครงการที่ไดรับอนุมัติใหการสงเสริมเปนจํานวน ทั้งสิ้น 72 โครงการ เงินลงทุนมูลคารวม 18,300 ลานบาท มีการจางงาน จํานวนรวม 12,879 คน สําหรับเดือนพฤษภาคม 2555 มีโครงการที่ ไดรับอนุมัติใหการสงเสริมทั้งสิ้น 14 โครงการ เงินลงทุนรวม 4,880 ลานบาท มีการจางงานรวม 6,652 คน เมื่อเทียบชวงเดียวกันของปกอน พบวาโครงการไดรับอนุมัติไมมีการเปลี่ยนแปลง แตมีมูลคาเงินลงทุน รวมเพิ่มขึ้น 1,857 ลานบาท และมีการจางงานเพิ่มขึ้น 4,637 คน โดยรวมเงินลงทุนสวนใหญอยูในบริเวณภาคตะวันออก มีมูลคารวม 2,808 ลานบาท (สัดสวนรอยละ 57.54 ของเงินลงทุนทั้งหมด) โดยเงิน ลงทุนมีมากที่สุดอยูจังหวัดชลบุรี (มูลคา 2,385 ลานบาท) ผลิตซุบไก สกัดชนิดน้ํา/เม็ด รองลงมาคือพัทลุง (มูลคา 500 ลานบาท) ผลิตไกสด แชแข็ง สวนการจางงานมากสุดอยูที่จังหวัดสงขลา มีจํานวน 2,100 คน (สัดสวนรอยละ 31.57 ของการจางงานทั้งหมด) รองลงมาคือกาญจนบุรี มีจํานวน 1,011 คน (รอยละ 15.20)
ภาพรวมภาวะการผลิต
อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ในเดือนพฤษภาคม 2555 ปรับตัวเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับชวง เดียวกันของปกอน โดยมีอัตราการใชกําลังการผลิตอยูที่ระดับ 62.72 ปรับเพิ่มขึ้นรอยละ 12.08 ในกลุมสินคาที่มีอัตราการใช กําลังการผลิตปรับเพิ่มขึ้นที่สําคัญ ไดแก แปงมันสําปะหลัง (ปรับเพิ่มขึ้นรอยละ 99.06) นมพรอมดื่ม (48.53) ปลาซารดีน กระปอง (35.16) เนื้อไกแชแข็งและแชเย็น (26.85) น้ําผลไม (22.18) อาหารสุกรสําเร็จรูป (16.68) ผงชูรส (16.64) อาหารไก สําเร็จรูป (9.84) ปลาทูนากระปอง (4.16) และสับปะรดกระปอง (0.07) ตามลําดับ สําหรับสินคาที่มีอัตราการใชกําลังการผลิต ปรับลดลง ไดแก น้ําตาลทรายดิบ (ลดลงรอยละ 67.64) น้ํามัน ถั่วเหลืองบริสุทธิ์ (46.16) น้ํามันปาลมบริสุทธิ์ (15.48) อาหาร กุงสําเร็จรูป (11.61) ปลาหมึกแชแข็ง (8.04) น้ําตาลทรายขาว (1.87) และกุงแชแข็ง (1.16) ตามลําดับ จากกําลังการผลิตที่ เพิ่มขึ้นในกลุมสินคาดังกลาว สงผลทําใหดัชนีผลผลิต (ถวง น้ําหนักมูลคาเพิ่ม) อุตสาหกรรมอยูที่ระดับ 165.84 เพิ่มขึ้นรอย ละ 16.74 จากชวงเดียวกันของปกอน ผลผลิตโดยรวมในกลุม สินคาที่ปรับเพิ่มขึ้น สะทอนภาพความตองการของตลาดที่มี ตอเนื่อง โดยเฉพาะในกลุมสินคาแปงมันสําปะหลัง ผลิตภัณฑ นม เนื้อไกแชแข็ง/แชเย็น ผักผลไมแปรรูป และอาหารสัตว สําเร็จรูป โดยดัชนีการสงสินคาปรับเพิ่มขึ้นรอยละ 13.28 อยูที่ ระดับ 168.97 ขณะที่ดัชนีสินคาสําเร็จรูปคงคลังปรับเพิ่มขึ้น รอยละ 13.03 จากชวงเดียวกันของปกอน โดยอยูที่ระดับ 242.91 ดวยอัตราการใชกําลังการผลิตท่ีเพิ่มขึ้น รวมทั้งปริมาณ สินคาคงคลังที่มีสะสมกอนหนา สงผลใหสินคาคงคลังในกลุมที่ สําคัญยังคงเพิ่มขึ้น ไดแก สับปะรดกระปอง (เพิ่มขึ้นรอยละ 123.53) น้ําผลไม (103.84) เนื้อไกแชแข็งและแชเย็น (72.21) น้ํามันถั่วเหลืองบริสุทธิ์ (50.13) แปงมันสําปะหลัง (33.44) ปลา ซารดีนกระปอง (15.38) นมพรอมดื่ม (13.72) อาหารกุง สําเร็จรูป (11.36) และอาหารไกสําเร็จรูป (6.04)
download PDF ย้อนกลับ