กุมภาพันธ์ 2557
รายงานสถานการณ์อุตสาหกรรมอาหารไทยรายเดือน
กุมภาพันธ์ 2557
ภาวะการลงทุนของภาคอุตสาหกรรมอาหารและ เครื่องดื่มในเดือนธันวาคม 2556 มีโครงการไดรับ อนุมัตใิหการสงเสริมเปนจํานวนทั้งสิ้น 4 โครงการ ดวย เงินลงทุนมีมูลคารวม 291 ลานบาท และมีการจางงาน จํานวน 107 คน เมื่อเทียบกับชวงเดียวกันของปกอน พบวาทั้งจาํนวนโครงการอนุมัติ มูลคาเงินลงทุนและการ จางงานไดปรับตัวลดลงรอยละ 33.33 81.07 และ 85.20 ตามลําดับ และเมื่อพิจารณาเปนรายเขตจะ พบวาในเขตที่ 1 ไมพบโครงการที่อนุมัติใหการสงเสริม ในขณะที่เขตที่ 2 จํานวนโครงการ มูลคาเงินลงทุน และ การจางงานปรับลดลง สวนเขตที่ 3 มีจํานวนโครงการ มูลคาเงินลงทุน และการจางงานปรับเพิ่มขึ้น สําหรับ กลุมสินคาที่มเีงินลงทุนมากสุด ไดแก แปงมนัสําปะหลัง มีมูลคาอยูที่ 160 ลานบาท คิดเปนสัดสวนถึงรอยละ 54.91 ของเงนิลงทุนทั้งหมด โดยอยูในเขตพื้นที่จังหวัด ยโสธร รองลงมาคือ ขาวสารคัดคุณภาพ มีมูลคา 122 ลานบาท สัดสวนรอยละ 41.87 และน้ํามันงาสกัด มี มูลคา 9 ลานบาท สัดสวนรอยละ 3.23 และจากมูลคา ของเงินลงทุนทั้ง 3 กลุมสินคา จะมีผลทําใหในชวง ไตรมาส 3 ของป 57 มีกําลังการผลิตสินคาเพื่อการ บรโิภคในกลุมอุตสาหกรรมอาหารปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 1.04 แสนตัน โดยแบงออกเปนกลุมสินคาแปงมัน สําปะหลัง จะมีกําลังการผลิตเพิ่มขึ้นในระบบ 45,000 ตัน (ทั้งระบบกําลังการผลิตอยูที่ 2.4 ลานตันตอป) ดวยความตองการใชเพื่อเปนวัตถุดิบการผลิตใน อุตสาหกรรมอาหารที่เพิ่มมากขึ้น, ขาวสารคัดคุณภาพ จะมีกําลังการผลิตปรับเพิ่มขึ้น 59,490 ตัน (ทั้งระบบ อยูที่ 1.5 ลานตันตอป) และน้ํามันงาสกัด จะมีกําลัง การผลิตปรับเพิ่มขึ้น 5.4 ตัน (ทั้งระบบอยูที่ 2.5 หมื่น ตันตอป) สําหรับการจางงานพบวากลุมสินคาแปงมัน สําปะหลัง มีการจางงานมากที่สุดจํานวน 40 คน คิด เปนสัดสวนรอยละ 37.38 รองลงมาคือน้ํามันงาสกัด มี การจางงาน 37 คน คิดเปนรอยละ 34.58 และขาวสาร คัดคุณภาพ มีการจางงาน 30 คน คิดเปนรอยละ 14.02 โดยการจางงานปรับเพิ่มขึ้นในเขตพื้นที่จังหวัด ยโสธร กรุงเทพฯ และรอยเอ็ด ตามลําดับ
รายงานสถานการณ์อุตสาหกรรมอาหารไทยรายเดือน
กุมภาพันธ์ 2557
ภาวะการลงทุนของภาคอุตสาหกรรมอาหารและ เครื่องดื่มในเดือนธันวาคม 2556 มีโครงการไดรับ อนุมัตใิหการสงเสริมเปนจํานวนทั้งสิ้น 4 โครงการ ดวย เงินลงทุนมีมูลคารวม 291 ลานบาท และมีการจางงาน จํานวน 107 คน เมื่อเทียบกับชวงเดียวกันของปกอน พบวาทั้งจาํนวนโครงการอนุมัติ มูลคาเงินลงทุนและการ จางงานไดปรับตัวลดลงรอยละ 33.33 81.07 และ 85.20 ตามลําดับ และเมื่อพิจารณาเปนรายเขตจะ พบวาในเขตที่ 1 ไมพบโครงการที่อนุมัติใหการสงเสริม ในขณะที่เขตที่ 2 จํานวนโครงการ มูลคาเงินลงทุน และ การจางงานปรับลดลง สวนเขตที่ 3 มีจํานวนโครงการ มูลคาเงินลงทุน และการจางงานปรับเพิ่มขึ้น สําหรับ กลุมสินคาที่มเีงินลงทุนมากสุด ไดแก แปงมนัสําปะหลัง มีมูลคาอยูที่ 160 ลานบาท คิดเปนสัดสวนถึงรอยละ 54.91 ของเงนิลงทุนทั้งหมด โดยอยูในเขตพื้นที่จังหวัด ยโสธร รองลงมาคือ ขาวสารคัดคุณภาพ มีมูลคา 122 ลานบาท สัดสวนรอยละ 41.87 และน้ํามันงาสกัด มี มูลคา 9 ลานบาท สัดสวนรอยละ 3.23 และจากมูลคา ของเงินลงทุนทั้ง 3 กลุมสินคา จะมีผลทําใหในชวง ไตรมาส 3 ของป 57 มีกําลังการผลิตสินคาเพื่อการ บรโิภคในกลุมอุตสาหกรรมอาหารปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 1.04 แสนตัน โดยแบงออกเปนกลุมสินคาแปงมัน สําปะหลัง จะมีกําลังการผลิตเพิ่มขึ้นในระบบ 45,000 ตัน (ทั้งระบบกําลังการผลิตอยูที่ 2.4 ลานตันตอป) ดวยความตองการใชเพื่อเปนวัตถุดิบการผลิตใน อุตสาหกรรมอาหารที่เพิ่มมากขึ้น, ขาวสารคัดคุณภาพ จะมีกําลังการผลิตปรับเพิ่มขึ้น 59,490 ตัน (ทั้งระบบ อยูที่ 1.5 ลานตันตอป) และน้ํามันงาสกัด จะมีกําลัง การผลิตปรับเพิ่มขึ้น 5.4 ตัน (ทั้งระบบอยูที่ 2.5 หมื่น ตันตอป) สําหรับการจางงานพบวากลุมสินคาแปงมัน สําปะหลัง มีการจางงานมากที่สุดจํานวน 40 คน คิด เปนสัดสวนรอยละ 37.38 รองลงมาคือน้ํามันงาสกัด มี การจางงาน 37 คน คิดเปนรอยละ 34.58 และขาวสาร คัดคุณภาพ มีการจางงาน 30 คน คิดเปนรอยละ 14.02 โดยการจางงานปรับเพิ่มขึ้นในเขตพื้นที่จังหวัด ยโสธร กรุงเทพฯ และรอยเอ็ด ตามลําดับ
ดัชนีอัตราการใชกําลังการผลิตภาคอุตสาหกรรม อาหารและเครื่องดื่มเดือนธันวาคม 2556 ปรับตัว ลดลงรอยละ 16.33 เมื่อเทียบกับชวงเดียวกันของป กอน โดยมีอัตราการใชกําลังการผลิตอยูที่ระดับ 50.59 การเปลี่ยนแปลงของดัชนีอัตราการใชกําลังการผลิตใน กลุมสินคาสําคัญยังคงปรับตัวลดลงตอเนื่องติดตอกัน เปนเดือนที่ 11 มกีลุมสินคาสําคัญคือ 1. กงุขาว (กุงแช แข็งลดลงรอยละ 42.19) ปริมาณวัตถุดิบโดยรวมของ ป 56 อยูที่ระดับ 250,000 ตัน เปนสัดสวนที่มีการ ปรับตัวลดลงเกินกวารอยละ 50 แสดงถึงจํานวนของ วัตถุดิบที่มีไมเพียงพอในตลาด ทําใหภาคธุรกิจตอง ประสบปญหาปรับลดกําลังการผลิตในปจจุบัน เพื่อให สอดคลองกับวัตถุดิบที่มี ในขณะที่ความตองการของ ตลาดที่สําคัญยังมีอยูอยางตอเนื่อง และจากปญหาและ อุปสรรคที่เกิดขึ้นไดสงผลกระทบตอสวนแบงตลาดใน กุงขาวแชแข็งและแปรรูปที่สําคัญ ใหตกไปอยูในมือ คูแขงที่สําคัญของไทยอยางเวียดนามและอินเดีย หากแตผูสงออกของไทยตางคาดวาสถานการณจะกลับ ฟนตัวและดีขึ้นในชวงครึ่งหลังของป 57 ปริมาณ วัตถุดิบนาจะเพิ่มขึ้นจากปที่ผานมา ดวยความเชื่อมั่นที่ มีเพิ่มขึ้นในกลุมเกษตรกรผูเพาะเลี้ยง ดวยการแกไข ปญหาจากหนวยงานภาครัฐ 2. ผักและผลไมแปรรูป (น้ําผลไมลดลงรอยละ 41.21, สับปะรดกระปองลดลง รอยละ 28.25) ผลผลิตตามฤดูกาลไดปรับลดลง ตอเนื่องจากชวงกอนหนา โดยเฉพาะภาคธุรกิจที่ผลิต และแปรรูปในกลุมสินคาน้ําผลไมและสับปะรดกระปอง ไดปรับลดกําลังการผลิตลงตอเนื่องจากเดือนกอน ขณะที่ระดับราคาวัตถุดิบยังอยูในเกณฑสูงและมีระดับที่ ทรงตัว 3. เนื้อไกแชเย็น/แชแข็ง (ปรับลดลงรอยละ 25.68) ปริมาณวัตถุดิบที่มีโดยสวนใหญไมปรับเพิ่มขึ้น และมีระดับราคาที่ ทรงตัว (ตวัและเครื่องใน) ในขณะที่ บางพื้นที่กลับขาดแคลนและมีระดับราคาอยูในเกณฑสูง (ชิ้นเนื้อ) แตจากคําสั่งซื้อที่ชะลอตัวลง ดวยปริมาณ สินคาที่สะสมจากชวงกอนหนา ทําใหรานคาสง-ปลีก ตองปรับลดลง และเพื่อรอดูการปรับตัวของตลาดจาก การกระตุนของภาครัฐ
download PDF ย้อนกลับ