พฤศจิกายน 2568
ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมอาหารของไทยเดือนกันยายน 2568 หดตัวร้อยละ 3.4 มีอัตราการใช้กำลังการผลิตร้อยละ 44.0 ลดลงจากร้อยละ 45.5 ในเดือนเดียวกันของปีก่อน สะท้อนถึงภาวะการชะลอตัวของการผลิตในภาคอุตสาหกรรมอาหาร สาเหตุสำคัญมาจากความต้องการบริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศที่ลดลงตามภาวะเศรษฐกิจโลก ที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ รวมถึงต้นทุนการผลิตที่ยังอยู่ในระดับสูงจากราคาวัตถุดิบนำเข้า โดยกลุ่มสินค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว ได้แก่ แป้งมันสำปะหลัง (-29.6%) , บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป (-16.9%) , กาแฟสำเร็จรูปชนิดผง (-13.9%), น้ำตาลทรายขาวและน้ำตาลทรายบริสุทธิ์ (-11.5%) และเครื่องปรุงรสประจำโต๊ะอาหาร (-10.2%) ส่วนกลุ่มสินค้าหลักที่มีการผลิตขยายตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ กุ้งแช่แข็ง (+38.3%), กะทิ (+28.8%) และเนื้อไก่ปรุงรส (+8.7%)
การบริโภคในประเทศเดือนกันยายน 2568 ราคาสินค้าในหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ลดลงร้อยละ 0.3 (YoY) โดยมีสาเหตุหลักมาจากราคาสินค้าเกษตรปรับตัวลดลง ตามปริมาณผลผลิตที่ออกสู่ตลาดมากขึ้นในช่วงฤดูกาลผลิต ประกอบกับต้นทุนการผลิตที่ลดลงจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงและค่าขนส่ง ส่งผลให้ราคาสินค้าอาหารสดปรับลดลง ในหลายประเภท โดยกลุ่มสินค้าอาหารที่มีราคาลดลงและส่งผลดีต่อผู้บริโภค ได้แก่ ผักสด (-13.1%), ผลไม้สดแปรรูปและอื่นๆ (-8.7%) ไข่และผลิตภัณฑ์นม (-3.8%) ส่วนกลุ่มสินค้าที่มีการปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่ เครื่องปรุงอาหาร (+2.6%), อาหารพร้อมทาน (+2.4%), ผลิตภัณฑ์น้ำตาล (+1.9%), เนื้อสัตว์และสัตว์น้ำ (+1.7%)
การส่งออกสินค้าอาหารของไทยในเดือนกันยายน ปี 2568 มีมูลค่า 111,878 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 15.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากการชะลอตัวของคำสั่งซื้อในตลาดสำคัญ ท่ามกลาง ภาวะเศรษฐกิจโลก และความผันผวนของค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น สำหรับสินค้าหลักที่มีการส่งออกลดลง ได้แก่ ข้าว แป้งมันสำปะหลัง และปลาทูน่ากระป๋อง โดยข้าวได้รับผลกระทบจากการแข่งขันด้านราคากับเวียดนามและอินเดีย ซึ่งมีผลผลิตออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้นในช่วงเดียวกัน ขณะที่แป้งมันสำปะหลังลดลงตามปริมาณวัตถุดิบที่ลดลงจากภาวะภัยแล้ง
download PDF ย้อนกลับ