กันยายน 2568
ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมอาหารของไทยเดือนสิงหาคม 2568 หดตัวร้อยละ 6.6 มีอัตราการใช้กำลังการผลิตร้อยละ 44.9 ลดลงจากร้อยละ 48.1 ในเดือนเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยสำคัญมาจากภาคการท่องเที่ยวยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ และความต้องการบริโภคในประเทศและตลาดส่งออกที่ชะลอตัว นอกจากนี้ ราคาวัตถุดิบและต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการปรับลดปริมาณการผลิตตามความต้องการตลาด ประกอบกับพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ระมัดระวังมากขึ้น โดยกลุ่มสินค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว ได้แก่ แป้งมันสำปะหลัง (-23.5%) , ข้าวโพดหวานกระป๋อง (-17.1%) , บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป (-15.5%), ปลาทูน่ากระป๋อง (-8.3%) , เนื้อไก่แช่แข็งและแช่เย็น (-6.4%) ส่วนกลุ่มสินค้าหลักที่มีการผลิตขยายตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ กะทิ (+18.5%), ผักผลไม้แช่แข็ง (+10.0%) และกุ้งแช่แข็ง (4.6%)
การบริโภคในประเทศเดือนสิงหาคาม 2568 ราคาสินค้าในหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ลดลงร้อยละ 0.1 (YoY) โดยมีสาเหตุสำคัญมาจากราคาสินค้าเกษตรหลายรายการปรับตัวลดลงตามปริมาณผลผลิตที่ออกสู่ตลาดมากขึ้นในช่วงฤดูกาล รวมถึงต้นทุนการผลิตในภาคเกษตรลดลงจากราคาน้ำมันและค่าขนส่งที่ปรับตัวลดลง โดยกลุ่มสินค้าอาหารที่มีราคาลดลงและส่งผลดีต่อผู้บริโภค ได้แก่ ผักสด (-14.9%) ผลไม้สดแปรรูปและอื่นๆ (-13.1%) ไข่และผลิตภัณฑ์นม (-3.7%) ส่วนกลุ่มสินค้าที่มีการปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่ เนื้อสัตว์และสัตว์น้ำ (+3.4%), เครื่องประกอบอาหาร (+2.6%) และข้าว (+0.2%)
การส่งออกสินค้าอาหารของไทยในเดือนสิงหาคม ปี 2568 มีมูลค่า 117,311 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 21.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีสาเหตุสำคัญมาจากความต้องการบริโภคในตลาดโลกที่ชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าหลัก ขณะเดียวกัน ต้นทุนการขนส่งและราคาวัตถุดิบในภาคการผลิตยังอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ความสามารถในการแข่งขันของผู้ส่งออกไทยลดลง นอกจากนี้ ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักยังเป็นอีกปัจจัยที่กดดันมูลค่าการส่งออกโดยรวม กลุ่มสินค้าที่มีการส่งออกลดลง ได้แก่ ไก่ ข้าว ผลิตภัณฑ์น้ำตาล และปลาทูน่ากระป๋อง เป็นต้น
download PDF ย้อนกลับ