กันยายน 2568
ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมอาหารของไทยเดือนกรกฎาคม 2568 หดตัวร้อยละ 2.6 มีอัตราการใช้กำลังการผลิตร้อยละ 45.5 ลดลงจากร้อยละ 46.7 ในเดือนเดียวกันของปีก่อน สาเหตุจากความต้องการสินค้าอาหารทั้งในประเทศและต่างประเทศชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจโลก ต้นทุนวัตถุดิบและพลังงานปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้ยังมีปัจจัยจากการซ่อมบำรุงเครื่องจักรและควบคุมการผลิตให้สอดคล้องกับคำสั่งซื้อที่ลดลง โดยกลุ่มสินค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว ได้แก่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป (-17.7%) , เครื่องปรุงรสประจำโต๊ะอาหาร (-9.0%) , ปลาทูน่ากระป๋อง (-8.9) และเนื้อไก่แช่แข็งและแช่เย็น (-6.6%) ส่วนกลุ่มสินค้าหลักที่มีการผลิตขยายตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ กะทิ (+30.3%) น้ำตาลทรายขาวและน้ำตาลบริสุทธิ์ (+3.1%) และเครื่องปรุงรสประจำโต๊ะอาหาร (+3.8%)
การบริโภคในประเทศเดือนกรกฎาคม 2568 ราคาสินค้าในหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.8 (YoY) โดยมีปัจจัยสำคัญจากราคาวัตถุดิบหลักที่สูงขึ้น ต้นทุนค่าขนส่งและพลังงานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ประกอบกับราคาสินค้าอาหารแปรรูปที่ยังคงปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นได้กดดันต่อการบริโภคภายในประเทศ โดยกลุ่มสินค้าที่มีการปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่ เนื้อสัตว์และสัตว์น้ำ (+4.2%), เครื่องประกอบอาหาร (+3.4%), อาหารพร้อมทาน (+2.9%), ผลิตภัณฑ์น้ำตาล (+2.0%) ผลไม้แปรูปและอื่นๆ (+1.1) ส่วนกลุ่มสินค้าที่มีการปรับตัวลดลง ได้แก่ (-7.1%) , ไข่และผลิตภัณฑ์นม (-3.5%)
การส่งออกสินค้าอาหารของไทยในเดือนกรกฎาคม ปี 2568 มีมูลค่า 140,411 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากความต้องการสินค้าที่เพิ่มขึ้นในตลาดต่างประเทศ กลุ่มสินหลักที่มีการส่งออกเพิ่มขึ้น ได้แก่ ไก่ น้ำตาล และผลิตภัณฑ์มะพร้าว เป็นต้น ส่วนกลุ่มสินค้าที่ลดลง ได้แก่ ข้าว ปลาทูน่ากระป๋อง แป้งมันสำปะหลัง และซอสเครื่งปรุงรส สำหรับซอสเครื่องปรุงรสลดลง เนื่องจากคู่ค้าในต่างประเทศได้มีการสะสมสต๊อกสินค้าคงค้าง ส่งผลให้ความต้องการนำเข้าสินค้าในช่วงนี้ชะลอตัว
download PDF ย้อนกลับ