ความคืบหน้าระเบียบ Health Claims ของสาร Omega-3
หลังจากสหภาพยุโรป ได้ประกาศจะพิจารณาถึงการกล่าวอ้าง ทางสุขภาพ (Health Claims) ของกรดไขมัน Omega-3 บนฉลากใหม่เนื่องจากพบว่าสารนี้ถูกนำไปใช้อย่างกว้างขวางในผลิตภัณฑ์อาหาร และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ใช้ Omega-3 นิยมอ้างถึงผลในการป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจบนฉลาก ซึ่งบางประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา และ สหราชอาณาจักรอนุญาตให้ดำเนินการเช่นนั้นได้ แต่เมื่อสารนี้ถูกใช้ในผลิตภัณฑ์อย่างแพร่หลายทั้งในรูปของ Eicosapentanoic acid (EPA) และ Docosahexaenoic acid (DHA) ทางสำนักงานอาหารและยาของสหรัฐฯ (US Food and Drug Administration) และสหภาพยุโรป จึงเกิดความกังวลว่าอาจทำให้ร่างกายได้รับในปริมาณเกินแม้ว่าตามกฏหมายประเทศสหราชอาณาจักรอนุญาตให้อ้างผลของ Omega-3 ว่าการบริโภคในปริมาณ 0.45 กรัม /วัน จะส่งผลดีต่อสุขภาพและช่วยในการป้องกันโรคหัวใจได้ แต่ หลังจากการประเมินของสหภาพยุโรปพบความเชื่อมโยงของสารนี้กับระบบการทำงานของสมองและ สุขภาพของทารก ซึ่ง อาจส่งผลให้ในปี 2553 สหภาพยุโรปจะประกาศห้ามการกล่าวอ้างผลทางสุขภาพของสาร Omega-3
ตั้งแต่ปี 2545 เป็นต้นมา สาร Omega-3 มีการค้นคว้าวิจัยอย่างมากมาย ทั้งในด้านสรรพคุณของการป้องกันโรคและปริมาณที่ เหมาะสมที่ร่างกายต้องการต่อวัน ทั้งนี้ The Global Organization for EPA and DHA (GOED) ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้สารนี้ในอุตสาหกรรมอาหารว่าต้องคำนึงถึง RDI (Recommeded daily Intake) หรือปริมาณที่ร่างกายจะต้องได้รับจากการบริโภคโดยเฉพาะการรับประทานอาหารที่มีสารนี้อยู่แล้วตามธรรมชาติ ผู้บริโภคในแต่ละภูมิภาคด้วย ซึ่งยุโรป อเมริกา และเอเชีย อาจมีความแตกต่างกันและประเทศควร พิจารณาอนุญาตให้ใช้ หรือกล่าวอ้างอิงตามปริมาณ ที่มีอยู่เช่นเดียวกับสารอาหารจำพวกแร่ธาตุ วิตามิน และไฟเบอร์ มากกว่าการอ้างผลในการป้องกันโรค
download PDFญี่ปุ่นเสนอข้อแก้ไขค่ามาตรฐานตกค้างสารเคมีตกค้างบางรายการ กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการ ประเทศญี่ปุ่น (Ministry of Health, Labour an...
EU ลดระดับการสุ่มตรวจสารฆ่าแมลงตกค้างในผักกลุ่มกะหล่า สานักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่...