ขณะนี้รัฐบาลเนเธอร์แลนด์กำลังหาแนวทางที่จะเก็บภาษีเพิ่มเติมจากอัตราคงที่ 26.13 ยูโร/ลิตร (ประมาณ 1,037 บาท) โดยคิดตามปริมาณน้ำตาล จึงได้เสนอแนวทางที่อาจเป็นไปได้ 5 แนวทาง ได้แก่ 1) เก็บภาษีเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ทั้งหมด รวมถึงนม เครื่องดื่มจากถั่วเหลือง และน้ำแร่ 2) ยกเว้นภาษีน้ำแร่ เนื่องจากเป็นเครื่องดื่มทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ 3) ยกเว้นภาษีน้ำดื่ม นม และเครื่องดื่มถั่วเหลืองที่มีปริมาณน้ำตาลต่ำ 4) ยกเว้นภาษีน้ำดื่ม นม และเครื่องดื่มจากถั่วเหลือง แต่จะเก็บภาษีน้ำผักและผลไม้ในอัตราที่ต่ำ และ 5) ยกเว้นภาษีน้ำผักและผลไม้เข้มข้นด้วย โดยการเก็บภาษีแต่ละแนวทางจะส่งผลต่ออัตราการเก็บภาษีต่อลิตรของรัฐบาล

 

          ทั้งนี้ หากไม่มีการยกเว้นใด ๆ เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลมากกว่า 10 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร จะต้องเสียภาษี 40 ยูโรต่อ 100 ลิตร (ประมาณ 1,586 บาทต่อ 100 ลิตร) แต่หากเป็นไปตามแนวทางที่ 4 เครื่องดื่มอื่น ๆ นอกเหนือจากที่ยกเว้น จะต้องเสียภาษี 52.75 ยูโรต่อ 100 ลิตร (ประมาณ 2,074 บาทต่อ 100 ลิตร) เช่น เครื่องดื่มกระทิงแดง 

 

          อย่างไรก็ตาม สมาคมเครื่องดื่มน้ำอัดลม น้ำดื่ม และน้ำผลไม้ของเนเธอร์แลนด์ (FWS) ยินดีกับข้อเสนอของรัฐบาล แต่กล่าวว่าการที่อัตราภาษีขึ้นอยู่กับหมวดหมู่ที่ได้รับการยกเว้น แสดงให้เห็นว่ารายได้เป็นแรงจูงใจสำคัญของการออกนโยบายดังกล่าว ซึ่งอาจทำให้อัตราภาษีเครื่องดื่มอื่น ๆ เพิ่มขึ้นอัตโนมัติ โดยอาจมีมูลค่ามากกว่า 50 เซนต์/ลิตร หรือเกือบสองเท่าจากระดับปัจจุบัน ซึ่งอาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาจากอัตราภาษีสูงสุดของสหราชอาณาจักร อยู่ที่ 0.28 ยูโรต่อลิตร ซึ่งพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพในการจูงใจให้ผู้ผลิตหันมาผลิตเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้นได้

 

ที่มา : สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ

download PDF ย้อนกลับ