เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2564 ได้มีประกาศ Commission Implementing Regulation (EU) 2021/2079 จากคณะกรรมาธิการยุโรปว่าด้วยการอนุญาตให้วางจำหน่ายผงเห็ดวิตามิน D₂ เป็นอาหารใหม่ (novel food) ภายใต้ Regulation (EU) 2015/2283 ซึ่งเป็นการปรับแก้ Commission Implementing Regulation (EU) 2017/2470 ใน EU Official Journal L 426/16

หน่วยงานความปลอดภัยอาหารของสหภาพยุโรป (European Food Safety Authority : EFSA) ได้ทำการประเมินและเห็นว่า ผงเห็ดวิตามิน D₂ (Agaricus bisporus) มีความปลอดภัยต่อการบริโภค และเป็นไปตามข้อกำหนดของ Regulation (EU) 2015/2283 จึงเห็นชอบให้ผงเห็ดวิตามิน D₂ บรรจุอยู่ในบัญชีรายชื่อ Novel food ใน Commission Implementing Regulation (EU) 2017/2470 โดยอนุญาตให้ใช้ใน

• ธัญพืชอาหารเช้า
• ขนมปังใส่ยีสต์และขนมอบที่คล้ายคลึง
• ผลิตภัณฑ์ธัญพืช พาสต้าและผลิตภัณฑ์ที่มีความคล้ายคลึง
• น้ำผลไม้/น้ำผักและน้ำหวานจากผลไม้/ผัก
• ผลิตภัณฑ์นมและผลิตภัณฑ์ที่ใช้แทนนม (เครื่องดื่ม/ไม่ใช่เครื่องดื่ม)
• นมผง
• ผลิตภัณฑ์ที่ใช้แทนเนื้อสัตว์
• ซุป
• ขนมขบเคี้ยวขึ้นรูป
• อาหารที่ใช้ทดแทนสำหรับการควบคุมน้ำหนัก
• อาหารสำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะทางการแพทย์ และอาหารเสริม (ยกเว้นอาหารเสริมสำหรับทารกและเด็กเล็ก)

          ทั้งนี้ได้กำหนดสัดส่วนการบริโภคสูงสุด (Maximum levels) ระหว่าง 1.1 – 15 ไมโครกรัม/100 มิลลิกรัม หรือ /100 กรัมหรือ /วัน (ขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์)

การพิจารณาดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากบริษัท MBio Monoghan Mushrooms ของไอร์แลนด์ ได้ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมาธิการยุโรปเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2562 เพื่อขอขึ้นทะเบียนผงเห็ดวิตามิน D₂ เป็นอาหารใหม่ภายใต้ Regulation (EU) 2015/2283 มาตรา 10(1) โดยการขึ้นทะเบียนผงเห็ดวิตามิน D₂ เป็นอาหารใหม่ให้แก่บริษัทผู้ยื่นคำร้อง MBio Monoghan Mushrooms ของไอร์แลนด์ ในครั้งนี้ ไม่ได้ถือเป็นการกีดกันให้ผู้ยื่นคำร้องรายอื่นๆ ไม่สามารถขอขึ้นทะเบียนสินค้าชนิดเดียวกันได้ หากข้อมูลที่ใช้ประกอบการยื่นคำร้องมีความถูก/ครบถ้วนเป็นไปตามกฎระเบียบ แม้ว่า บริษัท MBio Monoghan Mushrooms ของไอร์แลนด์ จะได้ยื่นขอการปกป้องข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่เป็นกรรมสิทธิ์ เป็นเวลา 5 ปี จนถึงวันที่ 19 ธันวาคม 2569

กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 29 พฤศจิกายน 2564) ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎระเบียบดังกล่าว สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ ดังนี้

 

ที่มา : https://eur-lex.europa.eu/legal-content/EN/TXT/PDF/?uri=CELEX:32021R2079&from=EN

download PDF ย้อนกลับ