ซึ่งจะเห็นได้จากผลผลิตมันสำปะหลังโดยรวมทั่วโลกในช่วงปี 2554 - 2557 มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 3.6 ต่อปี มีการปรับตัวเติบโตในอัตราที่เพิ่มขึ้นทุกปี นับจากปี 2554 คิดเป็นร้อยละ 2.5,ร้อยละ 3.8 และ ร้อยละ 4.6 ตามลำดับ โดยประมาณการว่าในปี 2555 มีผลผลิต 268.37 ล้านตัน และคาดการณ์ว่าผลผลิตรวมในปี 2556 และ 2557 จะมีผลผลิตจำนวน 278.64 ล้านตัน และ 291.32 ล้านตัน ตามลำดับ

ทวีปแอฟริกา เป็นพื้นที่ที่มีการเพาะปลูกมันสำปะหลังสูงสุด คือมีสัดส่วนผลผลิตคิดเป็นร้อยละ 55.7 - 57.3 ของผลผลิตทั้งหมดทั่วโลก โดยประมาณการผลผลิตในปี 2555 มีผลผลิต 149.40 ล้านตันคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 55.7 ของผลผลิตทั้งหมดทั่วโลก มีปริมาณผลผลิตเพิ่มขึ้นเพียงอัตราร้อยละ 1.4 เนื่องจากมีสภาพอาการแปรปรวน ทำให้เกษตรกรมีการปรับเปลี่ยนช่วงเวลาสำหรับการเพาะปลูก สำหรับปี 2556 มีผลผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.4 มีผลผลิต 158.99 ล้านตัน และคาดการณ์ว่าผลผลิตจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในปี 2557 อีกร้อยละ 5.0 มีผลผลิต 166.92 ล้านตัน หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 57.3 ของผลผลิตทั้งหมดทั่วโลก จากการคาดการณ์ผลผลิตในพื้นที่แถบทวีปแอฟริกา จะมีการเติบโตโดยเฉลี่ยร้อยละ 4.3 ต่อปี แหล่งเพาะปลูกในฝั่งตะวันตกของทวีปแอฟริกามีความสำคัญในการให้ผลผลิตที่มีคุณภาพดีสามารถนำไปผลิตแป้งคุณภาพสูงทำให้สามารถลดการนำเข้าธัญพืชต่าง ๆ ได้ ส่วนแหล่งเพาะปลูกในภาคตะวันออกและภาคใต้ของทวีปแอฟริกาจะสามารถสร้างผลผลิตได้อย่างต่อเนื่อง เพราะสามารถเพาะปลูกสายพันธุ์ที่สามารถทนกับสภาพอากาศที่แปรปรวนได้ดี สำหรับประเทศที่มีการผลิตมันสำปะหลังมากที่สุดในภูมิภาคนี้ คือประเทศไนจีเรีย ซึ่งมีสัดส่วนผลผลิตคิดเป็นร้อยละ 18.9 - 20.1 ของผลผลิตทั้งหมดทั่วโลก โดยประมาณการว่าผลผลิตในปี 2555 และ 2556 จะคงที่ ซึ่งมีผลผลิตปริมาณ 54.00 ล้านตันสำหรับปี 2557 มีการใช้มาตรการให้กู้ยืมโดยให้อัตราดอกเบี้ยพิเศษแก่เกษตรกรผู้เพาะปลูก เป็นการจูงใจให้มีการขยายพื้นที่เพาะปลูกในประเทศให้มากขึ้น อีกทั้งยังมีการจ้างแรงงานผู้หญิงในภาคการผลิตมากขึ้นด้วย จึงคาดการณ์ว่าจะมีผลผลิตกลับมาเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 2.0 หรือมีผลผลิต 55.06 ล้านตัน

ส่วนประเทศที่ผลิตมันสำปะหลังที่สำคัญรองลงมาคือ สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก, กานา,แองโกลา และโมซัมบิก โดยแต่ละประเทศมีผลผลิตประมาณร้อยละ 5.0 - 6.0 ของผลผลิตทั่วโลกทั้งหมดคิดเป็นผลผลิตประมาณ 14.70 - 17.32 ล้านตัน โดยประเทศโมแซมบิกมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยสูงสุด คือร้อยละ 14.2 ต่อปี จากการประมาณการว่า ปี 2556 จะมีผลผลิตเพิ่มขึ้นจากปี 2555 จำนวน 10.05 ล้าน