กุมภาพันธ์ 2565
ความตึงเครียดระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลกระทบต่ออียิปต์เป็นอย่างมาก โดยอียิปต์เป็นผู้นำเข้าข้าวสาลีรายใหญ่ที่สุดของโลกมีการนำเข้าข้าวสาลีร้อยละ 90 จากรัสเซียและยูเครน ซึ่งเป็นผู้ผลิตข้าวสาลีรายใหญ่ของโลก ดังนั้น ผลกระทบทางเศรษฐกิจที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากความตึงเครียดในยูเครนซึ่งจะทำให้ราคาข้าวสาลีทั่วโลกสูงขึ้น โดยรัฐบาลอียิปต์จำเป็นต้องทบทวนราคาของขนมปังที่ได้รับเงินอุดหนุน ซึ่งอาจมีการปรับราคาเล็กน้อย เนื่องจากต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ ราคาขนมปังในอียิปต์ไม่ได้รับการปรับมาตั้งแต่ปี 2531 และในขณะนั้นราคาสำหรับรัฐอุดหนุนอยู่ที่ห้าเพียสตาต่อก้อน ในปัจจุบันค่าขนมปังที่ได้รับเงินอุดหนุนเท่ากับ 65 เพียสตาต่อก้อน จึงจำเป็นต้องปรับราคาขนมปังเพิ่มเพื่อให้สอดรับกับต้นทุนที่สูงขึ้น โดยประชากรประมาณ 71 ล้านคน จาก 100 ล้านคนของอียิปต์ซื้อขนมปังอุดหนุนโดยรัฐใช้ระบบปันส่วนสมาร์ทการ์ด และการผลิตขนมปังที่ได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐอยู่ระหว่าง 250 ถึง 270 ล้านก้อนต่อวัน
ความคิดเห็น
จากเหตุการณ์ระหว่างรัสเซียและยูเครนดังกล่าว ประเมินว่าอียิปต์มีความจำเป็นจะต้องหาทางเลือกในการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นจากแหล่งอื่นที่มีความได้เปรียบในด้านต้นทุนและค่าขนส่งเพื่อใช้ทดแทนแหล่งนำเข้าเดิมจากรัสเซียและยูเครนที่กำลังประสบปัญหากันอยู่ จึงน่าจะเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการไทยในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคจำเป็น เช่น ข้าว น้ำมัน ข้าวโพด และอาหารแปรรูปในการส่งออกสินค้าในกลุ่มดังกล่าวได้มากขึ้นจากผลกระทบของวิกฤตการณ์ดังกล่าว สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงไคโร ประเมินว่า อียิปต์มีความจำเป็นจะต้องหาทางเลือกในการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นจากแหล่งอื่นที่มีความได้เปรียบในด้านต้นทุนและค่าขนส่งเพื่อใช้ทดแทนแหล่งนำเข้าเดิมจากรัสเซีย และยูเครนที่กำลังประสบปัญหากันอยู่ จึงน่าจะเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการไทยในกลุ่มสินค้าอุปโภค บริโภคจำเป็น เช่น ข้าว น้ำมัน ข้าวโพด และอาหารแปรรูปในการส่งออกสินค้าในกลุ่มดังกล่าวได้มากขึ้นจากผลกระทบของวิกฤตการณ์ดังกล่าว
สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: ปัญหารัสเซีย-ยูเครน กระทบต่อการนำเข้าข้าวสาลีของอียิปต์ โดยสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงไคโร
download PDF ย้อนกลับ