Technology & Innovation

ซอสเผ็ดศรีราชาตราไก่ขึ้นแท่นอันดับ 1 คนอเมริกันนิยมซื้อมากที่สุด

กุมภาพันธ์ 2565

รายละเอียด :

ในช่วงระหว่างเดือนธันวาคม 2563 – เดือนพฤศจิกายน 2564 พบว่า ซอสเผ็ดที่ได้รับความนิยมและมีการสั่งซื้อมากที่สุดเป็นอันดับที่ 1 ในสหรัฐฯ คือ ซอสเผ็ดศรีราชาตราไก่หรือ Sriracha Hot Chili Sauce ของบริษัท Huy Fong Foods ผู้ผลิตและจำหน่ายซอสศรีราชาตราไก่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในสหรัฐฯ ซอสเผ็ดดังกล่าวได้รับความนิยมมากที่สุดใน 31 รัฐ โดยเฉพาะรัฐทางฝั่งตะวันตก และ ซอส Frank’s Red Hot ตามมาอันดับ 2 แต่ครองอันดับ 1 ใน 14 รัฐทางฝั่งมิดเวสต์และรัฐทางฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น รัฐนิวยอร์ก เคนตั๊กกี้ มิสซูรี

พฤติกรรมการบริโภคซอสเผ็ดของคนอเมริกันจำแนกได้ ดังนี้

1. ความนิยมซอสเผ็ดของคนอเมริกัน
2. รัฐที่ผู้บริโภคนิยมซื้อซอสเผ็ดมากที่สุด ได้แก่ นอร์ฑดาโกต้า โคโรลาโด นิวเม็กซิโก แคลิฟอร์เนีย และ นอร์ธแคโรไลน่า
3. รัฐที่ผู้บริโภคซื้อซอสเผ็ดน้อยที่สุด ได้แก่ฮาวาย ไอโอว่า อาร์คันซอส์ โอคลาโฮมา และ โรดไอแลนด์
4. ปริมาณซอสเผ็ดที่ลูกค้าซื้อในช่วงเดือนธันวาคม 2563 – พฤศจิกายน 2564 คิดเป็นปริมาณ 444,854 แกลลอน (1,681,548 ลิตร)หรือเทียบเท่าได้กับการบรรจุซอสลงในสระน้ำเด็กจำนวน 18,536 สระ

นอกจากนี้บริษัทฯ ได้ระบุเพิ่มเติมว่า ลูกค้าสั่งซื้อซอสเผ็ดตลอดปี แต่จะมีช่วงที่มีการซื้อมากที่สุด คือ ในช่วงเกมส์การแข่งขันอเมริกันฟุตบอลในเดือนกุมภาพันธ์(Super Bowl) ซึ่งปีที่ผ่านมายอดขายซอสเผ็ดพุ่งสูงขึ้นร้อยละ 45

ความคิดเห็น

          มูลค่าตลาดซอสเผ็ด (Hot Sauce) คิดเป็น 2,410 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2563 และคาดว่า
จะขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 4,170 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2571 ผู้นำตลาดในตลาด ได้แก่ บริษัท McCormick Spice (แบรนด์ Frank’s Red Hot และแบรนด์ Cholupa) บริษัท Huy Fong Foods (ซอสตราไก่) บริษัท McIlhenny Company (แบรนด์ Tobasco) และ ห้าง Aldi (แบรนด์ Berman) ซอสเผ็ด
ไม่เพียงแต่ใช้บริโภคกับอาหารเอเซียเท่านั้น แต่ได้ถูกประยุกต์นำไปใช้กับอาหารอเมริกันอื่นๆ เช่น แทนซ้อสมะเขือเทศ ใส่ไข่ ทานกับมันฝรั่งทอด หรือ แฮมเบอร์เกอร์ พิซซ่า พาสต้า ซุป สลัดหรือ อาหารอื่นๆ ซอสเผ็ดผลิตในสหรัฐฯ ครองตลาดสูงถึงร้อยละ 67 ในขณะที่ซอสนำเข้า จากต่างประเทศมีสัดส่วนตลาดเพียงร้อยละ 33 ซึ่งมีแหล่งนำเข้าสำคัญ ได้แก่เม็กซิโก คานาดา ไทย จีน สิงคโปร์ และ เวียดนาม เป็นต้น

ด้านแนวโน้มตลาดซอสเผ็ด ปัจจุบัน รสชาติเผ็ดเป็นที่ยอมรับและได้รับการบริโภคมากขึ้นเป็นลำดับ ผู้บริโภคกลุ่ม Millennial และ Gen-Z ซึ่งรวมกันมีจำนวนกว่า 140 ล้านคนในปัจจุบัน คือ เป็นผู้นิยมบริโภคซอสเผ็ด และจะเป็นปัจจัยสำคัญในการผลักดันการเจริญเติบโตของตลาดซอสเผ็ดในสหรัฐในทศวรรษนี้และต่อๆ ไป ผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 สร้างความต้องการจากผู้บริโภคซอสเผ็ดเพิ่มขึ้น เนื่องจากการล็อกดาวน์อย่างกว้างขวาง ซึ่งทำให้ผู้บริโภคต้องรับประทานอาหารจากที่บ้าน กระตุ้นการบริโภคซอสปรุงรสรวมไปถึงซอสเผ็ดอุตสาหกรรมการผลิตซอสเผ็ดของสหรัฐฯ จะขยายตัวในอัตราถดถอยอันเป็นผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 และผลลกระทบจากการขยายตัวอย่างรวดเร็วของอุตสาหกรรมการผลิตซอสเผ็ดในระยะที่ผ่านมา ส่งผลต่อความอิ่มตัวของอุตสาหกรรมการผลิตเนื่องจากผลกำไรเริ่มลดลง ประกอบกับ เผชิญการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจากสินค้าซอสเผ็ดนำเข้าจากต่างประเทศ

คนอเมริกันชอบซอสของ Huy Fong เพราะเป็นรสชาติที่คุ้นเคย อย่างไร ก็ตามหากมีซอสเผ็ดศรีราชาแบรนด์อื่นๆ จำหน่าย ผู้บริโภคอเมริกันมักจะซื้อมาทดลองรับประทาน เนื่องจากผู้บริโภคอเมริกันส่วนใหญ่ชอบทดลองแบรนด์ใหม่ๆและไม่ต้องการติดอยู่กับแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง การบุกตลาดให้ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนในสหรัฐฯ ต้องมีการวางแผนการและกำหนดกลยุทธ์การตลาด เพื่อรองรับและสนับสนุนกิจกรรมการตลาดรวมไปถึงการปรับรูปแบบบรรจุภัณฑ์และขนาดบรรจุภัณฑ์ให้เกิดความเหมาะสมต่อการใช้ในแต่ละโอกาส เช่น บรรจุในขวดขนาดเล็ก บรรจุเป็นซองขนาดเล็ก (Sachet) เป็นต้น การเข้าร่วมงานแสดงสินค้า
การใช้ตัวแทนการขาย และการสร้าง ภาพลักษณ์และความต้องการ ผ่าน Foodie, Chef, Social Media
ในสหรัฐฯ เป็นเครื่องมือช่วยประชาสัมพันธ์แบรนด์สินค้าและสร้างความต้องการสินค้าซอสเผ็ดของไทย

สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: ซอสเผ็ดศรีราชาตราไก่ขึ้นแท่นอันดับ 1 คนอเมริกันนิยมซื้อมากที่สุด โดยสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ ชิคาโก

แหล่งข้อมูล: HuffPost Life วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565