กรกฎาคม 2564
รัฐบาลอินเดียยกเลิกมาตรการจำกัดการนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบและน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์เพื่อบรรเทาราคาน้ำมันปาล์มภายในประเทศที่พุ่งสูงขึ้นต่อเนื่องและลดผลต่อภาระค่าครองชีพของผู้บริโภค โดยจะทำการลดภาษีนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบเหลือร้อยละ 10 และน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์เหลือร้อยละ 37.5 ตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน - 30 กันยายน 2564 รวมทั้งผ่อนคลายการอนุญาตให้นำเข้าน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ได้ทุกท่าเรือยกเว้นท่าเรือรัฐเกรละตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน - 31 ธันวาคม 2564
อานิสงส์ของการผ่อนคลายมาตรการควบคุมดังกล่าว ทำให้ตัวแทนผู้นำเข้าน้ำมันปาล์มรายหนึ่งคาดว่า ความต้องการนำเข้าน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์อาจเพิ่มถึง 150,000 ตันต่อเดือน และจากความต้องการนำเข้าที่เพิ่มขึ้น ทำให้ผู้ผลิตถือโอกาสขึ้นราคาเมื่อเห็นถึงอุปสงค์จากอินเดีย โดยราคาสูงขึ้นมากว่า 30 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน จากเดิมที่นำเข้าน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ในราคา 1,015 เหรียญสหรัฐฯต่อตันเพิ่มขึ้นเป็น 1,050 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน ทำให้ราคาน้ำมันปาล์มบริสุทธ์จากอินโดนีเซียถูกกว่าน้ำมันปาล์มดิบในประเทศเพียงตันละ 5 เหรียญสหรัฐฯ จากเดิมที่เคยถูกว่า 30-35 เหรียญสหรัฐฯ อย่างไรก็ตามแม้ว่าราคานำเข้าจะเพิ่มขึ้น อินเดียก็ยังคงต้องการนำเข้าน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากต้นทุนยังคงถูกกว่าการนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบเพื่อนำมาแปรรูปในประเทศ
ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านสินค้าเกษตรเสนอว่า รัฐบาลอินเดียควรสนับสนุนการนำเข้าน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์และน้ำมันปาล์มโอลีนบริสุทธิ์แบบบรรจุภัณฑ์เพื่อการค้าปลีก เช่น ขนาดถึง 1 ลิตร หรือในขวด 5 ลิตร ซึ่งจะช่วยลดเวลาในการกระจายสินค้าให้ถึงมือผู้บริโภค และลดภาระค่าครองชีพได้รวดเร็วภายในระยะเวลาอันสั้น ทั้งยังควรควบคุมและตรวจสอบการนำเข้าให้ถูกต้องเพื่อที่จะได้ใช้ข้อมูลในการตัดสินใจและการแทรกแซงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาราคาน้ำมันสำหรับบริโถคในอินเดียเพิ่มสูงขึ้นมากกว่า 2 เท่าตัว จากราคาน้ำมันที่ผันผวนตามราคาในตลาดโลกขณะที่ความต้องการบริโภคในประเทศยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง