พฤศจิกายน 2563
เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2563 ในการประชุมหัวข้อ “ส่งเสริมการผลิตและพัฒนาการตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์” ณ นครโฮจิมินห์ นาย Tran Thanh Nam รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท กล่าวว่า ความต้องการสินค้าออร์แกนิกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทั่วโลกรวมถึงในเวียดนาม ซึ่งเป็นข่าวดีสำหรับธุรกิจที่ลงทุนในสินค้าเหล่านี้ เวียดนามมีพื้นที่ปลูกสินค้าเกษตรอินทรีย์เพิ่มขึ้นจาก 53,350 เฮคเตอร์ ในปี 2559 เป็น 237,693 เฮคเตอร์ ในปี 2562 เพาะปลูกในพื้นที่ 46 จาก 63 จังหวัดทั่วประเทศ และได้มีการส่งออกไปยัง 180 ประเทศทั่วโลก มีมูลค่ารวม 335 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นอกจากนี้นาย Ha Phuc Mich ประธานสมาคมเกษตรอินทรีย์เวียดนามกล่าวว่า การเติบโตอย่างรวดเร็วของเกษตรอินทรีย์ยังทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความสามารถในการควบคุมคุณภาพ
สาระสำคัญของข่าว
เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2563 ในการประชุมหัวข้อ “ส่งเสริมการผลิตและพัฒนาการตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์” ณ นครโฮจิมินห์ นาย Tran Thanh Nam รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท กล่าวว่า ความต้องการสินค้าออร์แกนิกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทั่วโลกรวมถึงในเวียดนาม ซึ่งเป็นข่าวดีสำหรับธุรกิจที่ลงทุนในสินค้าเหล่านี้ เวียดนามมีพื้นที่ปลูกสินค้าเกษตรอินทรีย์เพิ่มขึ้นจาก 53,350 เฮคเตอร์ ในปี 2559 เป็น 237,693 เฮคเตอร์ ในปี 2562 เพาะปลูกในพื้นที่ 46 จาก 63 จังหวัดทั่วประเทศ และได้มีการส่งออกไปยัง 180 ประเทศทั่วโลก มีมูลค่ารวม 335 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นอกจากนี้นาย Ha Phuc Mich ประธานสมาคมเกษตรอินทรีย์เวียดนามกล่าวว่า การเติบโตอย่างรวดเร็วของเกษตรอินทรีย์ยังทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความสามารถในการควบคุมคุณภาพ
มีสหกรณ์และองค์กรจำนวนมากที่สนใจเข้าสู่ธุรกิจเกษตรอินทรีย์ แต่พบปัญหาการทำเอกสารและดำเนินการ เช่น ค่าใช้จ่ายในการวิเคราะห์ตัวอย่างและการประเมินเพื่อออกใบรับรองการผลิตแบบเกษตรอินทรีย์ โดยปกติจะใช้เวลา 2 – 3 ปี หรือนานกว่านั้นเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดอย่างสมบูรณ์ ในขณะที่ใบรับรองมีผลบังคับใช้เพียง 1 ปี และผู้ผลิตจะต้องยื่นขอการประเมินใหม่เป็นประจำ และปัญหาในการขยายขนาดของการทำเกษตรอินทรีย์เนื่องจากผลผลิตไม่สูง เกษตรกรมีนิสัยไม่จดบันทึกเกี่ยวกับกิจกรรมการทำฟาร์มในแต่ละวัน และความรู้เกี่ยวกับการผลิตแบบอินทรีย์ยังคงอยู่ในระดับต่ำ ปัจจัยการผลิต เช่น ปุ๋ยที่สามารถใช้ในการผลิตอินทรีย์ยังไม่สามารถใช้ได้อย่างกว้างขวางและมีราคาแพง
เพื่อเป็นการพัฒนาเกษตรอินทรีย์อย่างยั่งยืน ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องมีการให้ความรู้และให้คำปรึกษาแก่เกษตรกรอย่างต่อเนื่อง เช่น การจัดสัมมนา การอบรมเชิงปฎิบัติการ เป็นต้น นอกจากนี้รัฐบาลเวียดนามจำเป็นต้องประชาสัมพันธ์ผลิตผลอินทรีย์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ สร้างองค์กรเพื่อวิเคราะห์และรับรองการผลิตอินทรีย์ในประเทศเพื่อเป็นการลดต้นทุนให้แก่เกษตรกร
ทั้งนี้ เวียดนามได้วางแผนการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ในปี 2563 – 2573 โดยมีเป้าหมายที่จะขยายพื้นที่เพาะปลูกสินค้าเกษตรอินทรีย์ร้อยละ 1.5 – 2.0 ของพื้นที่เพาะปลูกสินค้าเกษตรทั้งหมดของประเทศภายในปี 2568 และเพิ่มเป็นร้อยละ 2.5 – 3 ภายในปี 2573
ความคิดเห็น
แนวโน้มความนิยมสินค้าเกษตรอินทรีย์ในตลาดเวียดนามถือได้ว่าเป็นโอกาสอันดีในการขยายตลาดสินค้าและผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์ของไทยเข้าสู่เวียดนาม เนื่องจากสินค้าไทยมีความหลากหลายสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคเวียดนามได้หลายกลุ่ม รวมทั้งสินค้าไทยยังได้รับความน่าเชื่อถือในคุณภาพ มาตรฐาน และความปลอดภัยจากผู้บริโภคชาวเวียดนามอยู่แล้ว
ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/803947/demand-for-organic-farm-produce-rising-in-viet-nam.html
download PDF ย้อนกลับ