มีนาคม 2560
นักวิเคราะห์ของ Mintel ระบุว่า “สุขภาพที่สื่อผ่านกลิ่นรส รสชาติ ความโหยหา และการผสม ผสานระหว่างความหวานและความเผ็ดจะเป็นเทรนด์ที่ใหญ่ที่สุดของรสชาติของชาวยุโรป”
สาระสำคัญของข่าว
นักวิเคราะห์ของ Mintel ระบุว่า “สุขภาพที่สื่อผ่านกลิ่นรส รสชาติ ความโหยหา และการผสม ผสานระหว่างความหวานและความเผ็ดจะเป็นเทรนด์ที่ใหญ่ที่สุดของรสชาติของชาวยุโรป”
โดยผู้บริโภคชาวสเปนยังติดอยู่กับรสชาติที่ชื่นชอบ โดยร้อยละ 80 ยังชื่นชอบรสชาติแบบดั้งเดิม ในขณะที่ชาวโปแลนด์รู้สึกตื่นเต้นที่จะลองของใหม่ ผู้บริโภคชาวยุโรปส่วนใหญ่ไม่นิยมการปรุงอาหารที่บ้านด้วยรสชาติที่แปลกใหม่ แต่ก็มีชาวโปแลนด์ ร้อยละ 64 ชาวสเปนร้อยละ 60 ชาวอิตาลีร้อยละ 57 ชาวฝรั่งเศสร้อยละ 45 และชาวเยอรมัน ร้อยละ 30 ที่ชอบลองสิ่งใหม่ ๆ ขณะที่รับประทานอาหารนอกบ้าน
รสชาติเพื่อสุขภาพ (Healthy flavours lead the way)
“สุขภาพ” คือ เทรนด์อาหารที่มาแรงที่สุดในยุโรป ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารผ่านทางกลิ่นรส รสชาติของอาหารรวมกับเทรนด์อาหารที่ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้และเทรนด์อาหารเพื่อสุขภาพ ชาวอิตาเลียนร้อยละ 77 คำนึงถึงสุขภาพเมื่อพิจารณาถึงรสชาติของผลิตภัณฑ์ และผู้บริโภคชาวโปแลนด์ ร้อยละ 81 ต้องการเห็นผลิตภัณฑ์ที่มากกว่าส่วนผสม และรสชาติ ต้องมีประโยชน์และดีต่อสุขภาพ เป็นผลให้ผลิตภัณฑ์ต้องมีส่วนผสมที่มีสรรพคุณทางยา เช่น น้ำขมิ้น และน้ำขิง ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่นิยมมากในขณะนี้
การกล่าวอ้างอาหารที่ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ และผลที่เกิดกับสุขภาพเป็นพิเศษ (health halo) ยังเป็นที่สนใจ เช่น ตลาดกำลังมองหาผลิตภัณฑ์ที่มีข้อความว่า GMO, lactose-free, Gluten-free, 100% natural, สารต้านอนุมูลอิสระสูง (high in antioxidants) และไม่ผ่านความร้อนเพื่อรักษาคุณค่าทางโภชนาการ
พืชพรรณไม้ต่าง ๆ ยังคงได้รับความนิยมในการทำเป็นส่วนผสมสำคัญในอาหารและเครื่องดื่ม เช่น เสจ (sage) ดอกคาโมไมล์ (chamomile) สาระแหน่ (lemon balm) และ ดอกลินเดน (linden blossoms) สำหรับใส่ในเครื่องดื่ม โยเกิร์ต และขนมขบเคี้ยว แม้ว่าผู้บริโภคชาวยุโรปไม่ได้จัดรวมพืชพรรณเหล่านั้นอยู่ในกลุ่มอาหารหรือผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มก็ตาม
รสชาติที่ทำให้รู้สึกนึกถึงบ้าน (Home is where the flavour is)
ผลิตภัณฑ์อาหารที่รับประทานแล้วให้ความรู้สึกโหยหา คิดถึงบ้าน เป็นอีกผลิตภัณฑ์ที่มีแนวโน้มในตลาดยุโรป ซึ่งจากการสำรวจพบว่า ประเทศส่วนใหญ่ทั้งฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี สเปนและโปแลนด์ มีความต้องการรสชาติที่ย้ำเตือนผู้บริโภคถึงอดีตหรือในวัยเด็กอยู่ในช่วงตั้งแต่ ร้อยละ 67 (เยอรมนี) ถึง ร้อยละ 82 (โปแลนด์)
ข้อความต่าง ๆ รวมถึงคำว่า classic, original และ authentic คือ ช่องทางสำคัญที่ใช้เพื่อการสื่อสารไปยังผู้บริโภค โดยผู้ผลิตจะใช้ส่วนผสมที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศหรือในพื้นที่ที่ผลิตภัณฑ์ เช่น แบรนด์ผลิตภัณฑ์นมสำหรับครอบครัวของ Scottish ที่ชื่อ Graham’s ทำให้ระลึกถึงความทรงจำของไอศกรีมแบบคลาสสิก
หวาน เผ็ด หรือทั้งสอง (Sweet, savoury or both?)
ผลิตภัณฑ์อาหารที่มีรสชาติหวานผสมผสานกับรสเผ็ดมีแนวโน้มได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในกลุ่มอาหารพวกมันฝรั่งทอดแผ่นบางและธัญพืชชนิดแท่งที่ให้พลังงาน การผสมผสานของรสชาติแบบดั้งเดิม ความเผ็ดจากมัสตาร์ด มีรสหวานจากผลไม้ น้ำผึ้งและส้ม เช่น ผู้ผลิตขนมขบเคี้ยว แบรนด์ Exquist ผลิตมันฝรั่งทอดรสหวานและรสเผ็ด ในทำนองเดียวกัน vivo bar เป็นธัญพืชชนิดแท่งที่มีโปรตีนสูง มีส่วนผสมทั้งมะเขือเทศ วอลนัท เมล็ดต้นกัญชง เมล็ดเจีย ข้าวกล้อง และยี่หร่า
ทั้งนี้ เทรนด์อาหารดังกล่าวได้ขยายตัวออกไปมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีอายุต่ำกว่า 34 ปี
ความคิดเห็น
เทรนด์ของผู้บริโภคชาวยุโรปแสดงให้เห็นถึงผู้บริโภคมีการเลือกรับประทานอาหารมากขึ้น อาหารที่เลือกบริโภคไม่เพียงแต่วัตถุดิบต้องดี ไม่มีสารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ มีประโยชน์ต่อร่างกายและต้องมีสรรพคุณทางยาอีกด้วย ในอาหารและผลิตภัณฑ์ของไทยมีการใช้สมุนไพรที่มีสรรพคุณทางยามากมาย เช่น ขิง ขมิ้น ตะไคร้ กะเพรา กระชาย สาระเหน่ และสมุนไพรอื่น ๆ อีกมากมาย ผู้ผลิตสามารถนำแนวโน้มนี้ไปปรับใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่จะออกสู่ท้องตลาดได้
ที่มา : FoodNavigator. Medicinal spices and fruity vinegar: Predicting Europe’s future flavour behaviour. http://www.foodnavigator.com/Market-Trends/Medicinal-spices-and-fruity-vinegar-Predicting-Europe-s-future-flavour-behaviour.
download PDF ย้อนกลับ