พฤษภาคม 2558
รศ.ดร. บุษบัน ศิริธัญญาลักษณ์ รองศาสตราจารย์ ภาควิชาวิทยาศาสตร์เภสัชกรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ผลิต ผลิตภัณฑ์ “โยเกิร์ตข้าวก่ำ” ขึ้น ซึ่งนับได้ว่าเป็นการแปรรูปและพัฒนาข้าวไทย ให้มีมูลค่าเพิ่มและความหลากหลายมากขึ้น ภายใต้โครงการ “การใช้ประโยชน์จากข้าวสายพันธุ์ท้องถิ่นทางภาคเหนือเพื่อเป็นวัตถุเติมอาหาร สารช่วยทางเภสัชกรรม และอาหารเสริมสุขภาพ ปรับสมดุลระบบทางเดินอาหารและระบบป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ในรูปแบบแป้งข้าวต้านทานการย่อย ส่วนสกัดข้าวที่เปลี่ยนรูปทางชีวภาพและผลิตภัณฑ์คล้ายโยเกิร์ตหมักจากข้าว”
รศ.ดร. บุษบัน ศิริธัญญาลักษณ์ รองศาสตราจารย์ ภาควิชาวิทยาศาสตร์เภสัชกรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ผลิต ผลิตภัณฑ์ “โยเกิร์ตข้าวก่ำ” ขึ้น ซึ่งนับได้ว่าเป็นการแปรรูปและพัฒนาข้าวไทย ให้มีมูลค่าเพิ่มและความหลากหลายมากขึ้น ภายใต้โครงการ “การใช้ประโยชน์จากข้าวสายพันธุ์ท้องถิ่นทางภาคเหนือเพื่อเป็นวัตถุเติมอาหาร สารช่วยทางเภสัชกรรม และอาหารเสริมสุขภาพ ปรับสมดุลระบบทางเดินอาหารและระบบป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ในรูปแบบแป้งข้าวต้านทานการย่อย ส่วนสกัดข้าวที่เปลี่ยนรูปทางชีวภาพและผลิตภัณฑ์คล้ายโยเกิร์ตหมักจากข้าว”
ขั้นตอนการผลิต เริ่มจากการคัดเลือกสายพันธุ์ ซึ่งเป็นสายพันธุ์พื้นเมืองภาคเหนือ โดยเลือกใช้ข้าวก่ำพันธุ์ลืมผัว เพราะทดสอบแล้วว่าสามารถนำจุลินทรีย์แลกติก FR332 ที่มีประโยชน์เข้าสู่ร่างกายได้ดีที่สุด บวกกับการผสมสารสกัดจากข้าวก่ำหอมมะลิเข้าไปด้วย เพื่อเอื้อต่อการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ ส่งผลให้การหมักโยเกิร์ตมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยมีกระบวนการหมักที่คล้ายกับการทำโยเกิร์ตนม โดยพัฒนาผลิตภัณฑ์เป็น 3 ลักษณะ ได้แก่ เซ็ตโยเกิร์ต ที่มีความเหนียวข้นหนืดเล็กน้อย รสชาติหวานฝาด ผลิตภัณฑ์คล้ายโยเกิร์ตพร้อมดื่ม ที่ลื่นคอมีรสชาติหวานน้อย และไอศกรีมโยเกิร์ต ซึ่งมีอายุการจัดเก็บประมาณ 2 สัปดาห์
โยเกิร์ตข้าวก่ำนั้น มีคุณค่าของสารสกัดสีม่วงที่อยู่ในข้าวก่ำ ซึ่งเต็มไปด้วยสารแอนโทไซยานิน ช่วยสร้างสมดุลให้กับลำไส้ใหญ่ ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ รวมทั้งยังช่วยให้ระบบประสาททำงานได้เป็นอย่างดี และจากการทดสอบด้านกระบวนการผลิตในห้องแลป พบว่า มีต้นทุนการผลิตประมาณ 8 บาท ต่อไลน์การผลิตหนึ่งชิ้น จึงเป็นเรื่องง่ายที่เอกชน โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่ผลิตโยเกิร์ตจำหน่ายอยู่แล้วสามรถนำไปพัฒนาต่อยอดและผลิตสินค้าที่มีคุณภาพเพื่อวางจำหน่ายต่อไป
download PDF ย้อนกลับ