สวัสดี

Technology & Innovation

“คาญ่า” กับ รางวัลนวัตกรรมข้าวไทย ปี 2555

พฤษภาคม 2558

รายละเอียด :

การประกวดรางวัลนวัตกรรมข้าวไทย ประจำปี 2555 ได้ประกาศผลออกมาแล้ว เมื่อช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งจากผลงานที่ส่งเข้าประกวดจำนวนทั้งสิ้น 39 ผลงาน จากกลุ่มอุตสาหกรรม 25 ผลงาน และจากกลุ่มวิสาหกิจชุมชน 14 ผลงาน ในส่วนผลิตภัณฑ์ประเภทอาหารที่ได้รับรางวัล คือ “คาญ่า” สังขยาแผ่นจากแป้งข้าวกล้องงอก ของ รศ.ดร. กมลวรรณ แจ้งชัด และคณะ ภาควิชาพัฒนาผลิตภัณฑ์ คณะอุตสาหกรรมเกษตร  มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้รับการยอมรับจากคณะกรรมการตัดสินใจให้ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 3 

การประกวดรางวัลนวัตกรรมข้าวไทย ประจำปี 2555 ได้ประกาศผลออกมาแล้ว เมื่อช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งจากผลงานที่ส่งเข้าประกวดจำนวนทั้งสิ้น 39 ผลงาน จากกลุ่มอุตสาหกรรม 25 ผลงาน และจากกลุ่มวิสาหกิจชุมชน 14 ผลงาน ในส่วนผลิตภัณฑ์ประเภทอาหารที่ได้รับรางวัล คือ “คาญ่า” สังขยาแผ่นจากแป้งข้าวกล้องงอก ของ รศ.ดร. กมลวรรณ แจ้งชัด และคณะ ภาควิชาพัฒนาผลิตภัณฑ์ คณะอุตสาหกรรมเกษตร  มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้รับการยอมรับจากคณะกรรมการตัดสินใจให้ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 3 

                ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวถือเป็นนวัตกรรมระดับประเทศด้านผลิตภัณฑ์ ที่ออกแบบสังขยาให้มีความทันสมัยคล้ายกับแผ่นชีสบรรจุอยู่ในพลาสติกพอลิเอธิลีนที่เคลือบสารเฉพาะ สามารถฉีกแผ่นสังขยาออกจากกันได้ง่าย ทำให้สะดวกในการรับประทานและการเก็บรักษา โดยมีส่วนผสมสำคัญประกอบด้วยแป้งข้าวกล้องงอกร่วมกับ        ไฮโดรคอลลอยด์ (Hydrocolloids) ทำหน้าที่ก่อให้เกิดโครงสร้างที่สามารถขึ้นรูปเป็นแผ่นบางได้ ทั้งยังคงให้เนื้อสัมผัสที่นุ่มและเรียบเนียนคล้ายกับสังขยาในรูปแบบปกติ ให้กลิ่นและสีจากใบเตยและแครอท จุดเด่นของคาญ่า อีกประการหนึ่ง คือ ไม่มีสารกลูเตน (Gluten-free product) เพราะแป้งข้าวกล้องงอกไม่มีสารดังกล่าว ตลอดจนมีคุณค่าทางโภชนาการสูง เนื่องจากมีสารอาหารที่มีประโยชน์ที่ร่างกายต้องการ คือ กาบา หรือ กรดแกมมาอะมิโนบิทีริค และสารเบต้าแคโรทีนจากส่วนผสมของแครอท และใบเตย อายุการเก็บรักษาอยู่ได้ในตู้เย็นนาน 1 เดือน อย่างไรนั้นขณะนี้ทางคณะวิจัยอยู่ระหว่างพัฒนาเพื่อให้สามารถยืดอายุให้เก็บได้นาน 3-6 เดือน 

 

           สำหรับประโยชน์ในทางเศรษฐกิจต่อประเทศ คาดว่าจะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มมากกว่า 3 เท่าของแป้งข้าวกล้องงอก ให้มีราคาขายปลีกสูงถึง 40 บาท/200 กรัม ขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบและบรรจุภัณฑ์ประมาณ 18 บาท/200 กรัม นอกจากนี้ยังเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคในการบริโภคขนมปังซึ่งมีรูปแบบและรสชาติของสังขยาใหม่ๆ ที่ทำจากวัตถุดิบเกษตรของไทยและมีคุณค่าทางอาหารสูง ซึ่งมีความใกล้เคียงกับผลิตภัณฑ์ประเภทเนยและชีส ซึ่งมีมูลค่าทางการตลาดประมาณ 1,500 ล้านบาท มีอัตราการขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 10 ต่อปี 

download PDF ย้อนกลับ

สถาบันอาหาร

อุตสาหกรรมพัฒนามูลนิธิ เพื่อสถาบันอาหาร

2008 ซ.อรุณอมรินทร์ 36 ถ.อรุณอมรินทร์ แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร 10700

Google map

ติดต่อสอบถาม

Email : fic@nfi.or.th
หรือ Call center
contact-img

0-2422-8688 ต่อ 3121
โทรสาร : 02-4228527