ตลาดนมจากพืชในประเทศไทยยังคงเติบโตอย่างช้าๆ คือนมถั่วเหลือง อย่างไรก็ตาม นมทางเลือกจากพืชชนิดอื่น ยังคงมีแนวโน้มเติบโตสูงแต่ก็ยังมีสัดส่วนไม่มากเพียงร้อยละ 7 ของมูลค่าตลาดรวมซึ่งกระแสการบริโภคนมจากพืชที่มีอยู่ในปัจจุบันมีส่วนกระตุ้นการเตบโตของตลาดในภาพรวมได้ แต่ก็ยังมีข้อจำกัดจากต้นทุนการผลิตที่สูงจากการพึ่งพิงวัตถุดิบนำเข้าเป็นสำคัญ

ด้านผลิตภัณฑ์พบว่าเครื่องดื่มนมถั่วเหลืองยังคงครองตลาดนมจากพืชในประเทศไทยโดยมีมูลค่าตลาด 17,633 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 93 ของมูลค่าตลาดนมจากพืชที่อยู่ที่ 19,080 ล้านบาท โดยตลาดถูกครอบครองโดยผู้ผลิตรายใหญ่เพียง 2 - 3 ราย ส่วนผู้ผลิตรายเล็กจะอาศัยช่องว่างทางการตลาดโดยการพัฒนาผลิตภัณฑ์นมถั่วเหลืองที่เจาะกลุ่มเป้าหมายเพื่อสุขภาพเป็นสำคัญแต่จะมีราคาที่สูงกว่าเจ้าตลาด

ด้านผลิตภัณฑ์นมจากพืช ทางเลือกอื่น ๆ เช่น น้ำนมข้าว นมข้าวโอ๊ต นมพิสตาชิโอ (Pistachio Milk) ได้เข้ามาทำตลาดในประเทศอย่างจริงจังไม่นานนักแต่ก็ถือว่าเติบโตแบบก้าวกระโดดจากสัดส่วนร้อยละ 4 ในปี 2563 เพิ่มขึ้นเป็นสัดส่วนร้อยละ 7 ในปัจจุบัน โดยผลิตภัณฑ์ในท้องตลาดมาจากทั้งการนำเข้าและผลิตได้ในประเทศแต่ก็ยังมีราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับนมถั่วเหลืองทำให้ตลาดจำกัดอยู่ในผู้บริโภคเฉพาะกลุ่ม

ราคานมถั่วเหลืองค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับราคานมจากพืชอื่น รวมถึงราคานมโคส่งผลทำให้ตลาดยังคงพึ่งพิงการเติบโตของเครื่องดื่มนมถั่วเหลืองประกอบกับการที่นมถั่วเหลืองมีผู้ผลิตรายใหญ่เข้ามาทำตลาดในประเทศอย่างยาวนาน กำลังการผลิตที่สูงและจนเกิดการประหยัดจากขนาด ทำให้ผู้ผลิตสามารถใช้กลยุทธ์ด้านราคาเพื่อแข่งขันกับนมทางเลือกอื่น ๆ

ในขณะที่ราคานมจากพืชทางเลือกต้องดูดซับกับต้นทุนการผลิตที่สูงทำให้ต้องใช้กลยุทธ์การขายที่ไม่เน้นราคา โดยหันไปใช้กลยุทธ์ด้านอื่นในการทำตลาด