มกราคม 2565
ประเมินมูลค่าตลาดชีส ปี 2564 ประมาณ 2,116.7 ล้านบาท คาดการณ์อัตราเติบโตเฉลี่ยในช่วงปี 2564 – 2569 คิดเป็นร้อยละ 3.8 โดยมูลค่าตลาดชีส แยกเป็นชีสแปรรูปที่ไม่รวมชีสสเปรด 768.9 ล้านบาท (ร้อยละ 36.33) ชีสแข็ง 466 ล้านบาท (ร้อยละ 22.02) ชีสสเปรด 446 ล้านบาท (ร้อยละ 21.07) และชีสนุ่ม 435.8 ล้านบาท (ร้อยละ 20.59)
ความต้องการชีสในประเทศไทย ส่วนใหญ่มาจากธุรกิจบริการอาหาร เนื่องจากชีสไม่ได้เป็นส่วนผสมของอาหารท้องถิ่นในไทย จึงมีการนำมาปรุงอาหารในครัวเรือนน้อย โดยชีสมักนิยมใช้ในร้านอาหารตะวันตก ซึ่งได้รับแรงหนุนจากนักท่องเที่ยวต่างชาติและผู้บริโภคกลุ่มที่มีอายุน้อย และในปัจจุบันมีการใช้ชีสเพิ่มขึ้นในร้านเบเกอรี่ ร้านอาหารฟิวชั่น และร้านอาหารในโรงแรม ได้มีการนำชีสมาเป็นวัตถุดิบในอาหารหลักและขนมหวานเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น พาสต้า พิซซ่า สลัด ชีสเค้ก และไอศกรีม เป็นต้น
จากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในปี 2563 รัฐบาลได้ประกาศปิดให้บริการร้านอาหารเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสในประเทศ ส่งผลกระทบต่อธุรกิจบริการอาหาร ทำให้ความต้องการชีสลดลง แต่ในช่วงกลางปี 2564 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้จัดโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ โดยให้นักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม สามารถเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่ที่กำหนด และมีการคาดการณ์ว่านโยบายการสนับสนุนการท่องเที่ยวดังกล่าว จะส่งผลให้ยอดขายชีสฟื้นตัวขึ้นในบางส่วนผ่านธุรกิจบริการอาหาร
download PDF ย้อนกลับ