กุมภาพันธ์ 2559
ภาพรวมการค้าอาหารไทยปี 2558 (ไม่รวมอาหารสัตว์)
ในปี 2558 การส่งออกอาหารไทยมีมูลค่า 897,529 ล้านบาท หดตัวลงร้อยละ 1.9 ส่วนการนำเข้า
มีมูลค่า 356,743 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.8 เมื่อเทียบกับปี 2557 ทำให้ไทยเกินดุลการค้าอาหารมูลค่า 540,786 ล้านบาท ซึ่งการนำเข้าที่ขยายตัวสูงส่งผลทำให้มูลค่าเกินดุลการค้าอาหารของไทยในปี 2558 มีมูลค่าลดลงเมื่อเทียบกับปี 2557 การส่งออกสินค้าอาหารไทยมีมูลค่าลดลงเนื่องจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวทำให้ความต้องการสินค้าลดลง รวมถึงปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ส่งผลทำให้รายได้จากการส่งออกสินค้าอาหารของไทยหลายรายการลดลงตามไปด้วย นอกจากนี้ หลายอุตสาหกรรมยังประสบปัญหาภัยแล้งทำให้ปริมาณวัตถุดิบทางการเกษตรลดลง โดยเฉพาะกลุ่มพืชผักผลไม้ เช่น สับปะรด ผลไม้เมืองร้อนอื่น ๆ
ภาพที่ 1 ภาพรวมการค้าอาหารไทยปี 2556-2558
ที่มา: ฝ่ายวิจัยและข้อมูล สถาบันอาหาร
สินค้าอาหารส่งออกของไทยปี 2558
ในจำนวนสินค้าหลัก 8 รายการ ได้แก่ ข้าว น้ำตาลทราย ไก่ กุ้ง ปลาทูน่ากระป๋อง สับปะรดกระป๋อง แป้งมันสำปะหลัง และเครื่องปรุงรส พบว่า
• สินค้าส่งออกที่มีปริมาณและมูลค่าส่งออกขยายตัวเพิ่มขึ้น มี 3 กลุ่ม คือ น้ำตาลทราย ไก่ และเครื่องปรุงรส
• สินค้าส่งออกที่มีปริมาณขยายตัวเพิ่มขึ้นแต่มูลค่าลดลง คือ กุ้ง สาเหตุเพราะราคากุ้งตกต่ำ
• สินค้าที่มีปริมาณส่งออกลดลงแต่มูลค่าเพิ่มขึ้น คือ สับปะรดกระป๋อง และแป้งมันสำปะหลัง
• สินค้าส่งออกที่มีปริมาณและมูลค่าหดตัวลดลง คือ ข้าว และปลาทูน่ากระป๋อง
ตารางที่ 1 สินค้าอาหารส่งออกในปี 2558
ที่มา: ฝ่ายวิจัยและข้อมูล สถาบันอาหาร
ตลาดส่งออกสินค้าอาหารของไทยปี 2558
• ตลาดอาหารของไทยร้อยละ 59.8 อยู่ในเอเชีย รองลงมาได้แก่ กลุ่มประเทศในอเมริกาเหนือ (13.2%), ยุโรป (11.7%) และแอฟริกา (10.2%) ส่วนตลาดในโอเชียเนีย และอเมริกาใต้มีสัดส่วนส่งออกค่อนข้างน้อย
• ตลาดในเอเชียที่สำคัญ ได้แก่ ประเทศญี่ปุ่น (14.0%) ซึ่งเป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 ของไทยในปัจจุบัน รองลงมา ได้แก่ กลุ่มประเทศ CLMV (13.7%), อาเซียนเดิม (11.6%), จีน (8.6%), ตะวันออกกลาง (4.0%) เป็นต้น ส่วนตลาดอินเดียมีสัดส่วนส่งออกน้อย
• ตลาดอาหารในกลุ่มประเทศอเมริกาเหนือส่วนใหญ่ คือ สหรัฐฯ (11.3%) และแคนาดา (1.9%)
ภาพที่ 2 ตลาดส่งออกสินค้าอาหารของไทย ปี 2558
ที่มา: ฝ่ายวิจัยและข้อมูล สถาบันอาหาร
แนวโน้มส่งออกอาหารไทยปี 2559
การส่งออกสินค้าอาหารไทยปี 2559 คาดว่าจะมีมูลค่า 950,000 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.8 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากแผนงานและโครงการพัฒนาเศรษฐกิจและกระตุ้นการลงทุนของภาครัฐ เงินบาทอ่อนค่าเทียบกับเงินสกุลหลัก ต้นทุนการผลิตและขนส่งลดลงตามราคาน้ำมันและวัตถุดิบนำเข้า เศรษฐกิจที่ขยายตัวจากการค้าและการลงทุนในกลุ่มประเทศ CLMV ส่งผลทำให้มีความต้องการสินค้าอุปโภคบริโภคเพิ่มขึ้น ส่วนปัจจัยเสี่ยงสำคัญคือเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัว โดยเฉพาะประเทศคู่ค้าที่มีรายได้หลักจากการส่งออกน้ำมันรวมทั้งสินค้าเกษตร ภัยแล้งทำให้ผลผลิตสินค้าเกษตรมีแนวโน้มลดลงกระทบต่อปริมาณวัตถุดิบของอุตสาหกรรมแปรรูป รายได้เกษตรลดลงจากปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำรวมทั้งภัยแล้ง รวมทั้งปัญหาแรงงานและการทำประมงผิดกฎหมาย
ภาพที่ 3 แนวโน้มการส่งออกสินค้าอาหารไทยในปี 2559
ที่มา: ฝ่ายวิจัยและข้อมูล สถาบันอาหาร
แนวโน้มการส่งออกสินค้าอาหารไทยในปี 2559 (สินค้าหลัก)
กลุ่มสินค้าที่คาดว่าการส่งออกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น (ปริมาณส่งออก)
• ไก่ ราคาวัตถุดิบอ่อนตัวตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกส่งผลดีต่อต้นทุนการผลิต รวมถึงประเทศคู่ค้าโดยเฉพาะญี่ปุ่นมีความต้องการไก่จากไทยต่อเนื่องเพราะยังไม่มั่นใจไก่จากจีน
• ปลาทูน่ากระป๋อง การส่งออกอาจเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยในตลาดรองแถบแอฟริกาเหนือ ส่วนตลาดหลักในสหรัฐฯ และยุโรป การบริโภคยังชะลอตัว ขณะที่ปริมาณวัตถุดิบปลาที่จับก็ขยายตัวไม่มากเนื่องจากราคายังไม่จูงใจ รวมทั้งหลายชาติเริ่มออกมาตรการเข้มงวดในการทำประมง
• กุ้ง ผลผลิตกุ้งไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่ประเทศคู่แข่งหลายประเทศ เช่น เวียดนาม อินเดีย กำลังประสบปัญหาโรคระบาด จึงเป็นโอกาสของไทยในการดึงส่วนแบ่งตลาดที่เสียไปกลับคืนมา แต่ก็ขึ้นอยู่กับปริมาณวัตถุดิบกุ้งว่าจะสามารถเพาะเลี้ยงเพิ่มขึ้นมากน้อยเพียงใด โดยในเบื้องต้นคาดว่าผลผลิตกุ้งไทยจะอยู่ที่ 3 แสนตัน คิดเป็นปริมาณเพียงครึ่งเดียวของระดับผลผลิตกุ้งที่ไทยเคยผลิตได้
• เครื่องปรุงรส สินค้าคุณภาพดีและมีเอกลักษณ์ รวมทั้งเป็นสินค้าที่มีภูมิคุ้มกันที่ดีเพราะมีตลาดกระจายอยู่ทั่วโลกโดยไม่ได้พึ่งพิงตลาดหนึ่งตลาดใดในสัดส่วนที่มากเกินไป
• สับปะรดกระป๋อง ปริมาณวัตถุดิบสับปะรดโรงงานมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากแรงจูงใจด้านราคา โดยในปี 2558 สับปะรดโรงงานมีราคาเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 10.30 บาทต่อกิโลกรัม สูงเป็นประวัติการณ์จากราคาเฉลี่ยในช่วง 20 ปีก่อนหน้าที่อยู่ในระดับ 3-4 บาทต่อกิโลกรัมเท่านั้น ซึ่งปริมาณวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นจะช่วยให้การส่งออกขยายตัว
ตารางที่ 2 คาดการณ์แนวโน้มการส่งออกสินค้าอาหารไทยในปี 2559
ที่มา: ฝ่ายวิจัยและข้อมูล สถาบันอาหาร
กลุ่มสินค้าที่คาดว่าการส่งออกมีแนวโน้มลดลง
• ข้าว ภัยแล้งทำให้ผลผลิตข้าวนาปรังของไทยลดลง ทำให้ผู้ส่งออกขาดแคลนข้าวใหม่ในการส่งออก ในขณะที่ฝั่งผู้ซื้อซึ่งส่วนใหญ่เป็นประเทศกำลังพัฒนาในแถบแอฟริกาก็ยังประสบภาวะเศรษฐกิจทำให้กำลังซื้อชะลอตัว ประกอบกับตลาดข้าวอันดับหนึ่งของไทยคือไนจีเรียตั้งกำแพงภาษีนำเข้าข้าวสูงถึงร้อยละ 60 รวมทั้งมีมาตรการเข้มงวดในการนำเงินดอลลาร์ออกนอกประเทศ ทำให้ผู้ซื้อขาดแคลนเงินดอลลาร์ในการชำระค่าข้าว ตลาดข้าวในแอฟริกาโดยเฉพาะไนจีเรียจึงชะลอตัวต่อไป
• น้ำตาลทราย ภัยแล้งทำให้พื้นที่เก็บเกี่ยวอ้อยลดลง รวมทั้งภัยแล้งยังทำให้ระดับความหวานของอ้อยมีแนวโน้มลดลงตามไปด้วย ซึ่งจะมีผลต่อปริมาณและคุณภาพน้ำตาลที่จะผลิตได้
• แป้งมันสำปะหลัง ประสบปัญหาวัตถุดิบมีไม่เพียงพอกับความต้องการของโรงงาน ทำให้ในช่วงที่ผ่านมีการนำเข้ามันสำปะหลังจากประเทศเพื่อนบ้านมาแปรรูปมากขึ้นโดยเฉพาะจากประเทศกัมพูชา
download PDF ย้อนกลับ