เมษายน 2558
Mintel บริษัทวิจัยตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภคระดับโลก ได้รายงานผลการวิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อแนวโน้มของผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มในประเทศสหรัฐอเมริกาปี ค.ศ. 2015 จากการวิจัยข้อมูลและศึกษาแนวโน้มของผลิตภัณฑ์ในตลาด โดย Lynn Dornblaser ผู้อำนวยการฝ่ายนวัตกรรมและการตลาด และ Jenny Zegler นักวิเคราะห์อาหารและเครื่องดื่มโลกของ Mintel
5 ปัจจัยที่ส่งผลต่อแนวโน้มอาหารและเครื่องดื่มในสหรัฐอเมริกา (5 Keys Food and Drink Trends for 2015)
เรียบเรียงโดย
น.ส.มยุรา ปรารถนาเปลี่ยน
Mintel บริษัทวิจัยตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภคระดับโลก ได้รายงานผลการวิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อแนวโน้มของผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มในประเทศสหรัฐอเมริกาปี ค.ศ. 2015 จากการวิจัยข้อมูลและศึกษาแนวโน้มของผลิตภัณฑ์ในตลาด โดย Lynn Dornblaser ผู้อำนวยการฝ่ายนวัตกรรมและการตลาด และ Jenny Zegler นักวิเคราะห์อาหารและเครื่องดื่มโลกของ Mintel ซึ่งผลการวิเคราะห์ชี้ให้เห็นว่า การจัดลำดับความส าคัญในการดำเนินชีวิตและความชอบในตัวผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มของผู้บริโภคมีความสำคัญเทียบเท่ากับพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าภายในร้านค้า โดยปัจจัย 5 ประการที่มีผลต่อแนวโน้มของผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มในสหรัฐอเมริกาประกอบด้วย การดำเนินชีวิตแบบห่วงใยสุขภาพ การเลือกรับประทานอาหารที่มีส่วนประกอบจากวัตถุดิบธรรมชาติ การปรุงอาหารรับประทานเองที่บ้าน การคำนึงถึงคุณค่าของผลิตภัณฑ์อาหารมากกว่ายี่ห้อของสินค้า และการเลือกซื้อสินค้าอาหารและเครื่องดื่มผ่านช่องทาง e-commerce
1. It’s not a diet, it’s a lifestyle
ปัจจุบันผู้บริโภคชาวอเมริกันเริ่มเปิดรับแนวคิดการดูแลสุขภาพแบบยั่งยืนมากขึ้น และหลีกหนีการวิ่งตามแฟชั่น โดยหันมาใส่ใจการเลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพในระยะยาว มากกว่าการพยายามอดอาหาร เพื่อลดน้ำหนัก ให้สามารถสวมใส่เสื้อผ้าได้ตามแฟชั่น อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคในปี 2558 พบว่าร้อยละ 56 ของชาวอเมริกันยังคงใช้วิธีการอดอาหาร เพื่อลดหรือรักษาน้ำหนักให้คงอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานขณะที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ราวร้อยละ 83 เลือกที่จะใช้วิธีการนับจำนวนแคลอรี่ของอาหารที่รับประทานในแต่ละวันมากกว่า ซึ่งในกรณีของการอดอาหาร ชาวอเมริกันมากกว่าร้อยละ 40 เห็นว่า อาหารและเครื่องดื่มที่มีโปรตีนสูงช่วยทำให้ผู้บริโภครู้สึกอิ่มได้นานและเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ทำให้ผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มที่มีการกล่าวอ้างว่า “มีปริมาณโปรตีนสูง หรือ มีใยอาหารสูง” ได้รับความนิยมมากขึ้น จากเดิมที่เมื่อปี 2056-2557 ผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมส่วนใหญ่มักจะต้องกล่าวอ้างว่า “มีปริมาณไขมันต่ำ หรือน้ำตาลต่ำ หรือให้พลังงานในระดับต่ำ หรือ ไม่มีเลย”
จากข้อมูลการวิจัยของ Mintel พบว่า คำว่า “อดอาหาร หรือ Diet” กลายเป็นคำต้องห้ามสำหรับผู้บริโภคที่มีแผนจะดูแลสุขภาพแบบยั่งยืน โดยผู้บริโภคกลุ่มนี้มองเห็นถึงประโยชน์ที่จะได้รับในระยะยาว จากการเลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพและไม่กลัวการรับประทานอาหารในปริมาณมากเป็นครั้งคราวตราบใดที่การรับประทานนั้นยังอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ซึ่งความยืดหยุ่นของผู้บริโภคในปีนี้ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้ผลิตสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่ห่วงใยสุขภาพได้มากขึ้นภาพที่ 1 ผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มที่มีการกล่าวอ้างว่า “มีปริมาณโปรตีนสูง หรือ มีใยอาหารสูง”
download PDF ย้อนกลับ