สวัสดี

Monthly Situation

สรุปภาวะอุตสาหกรรมอาหารไทย เดือนมีนาคม และแนวโน้มการส่งออกและสัญญาณเตือนภัย เดือนเมษายน 2566

เมษายน 2566

รายละเอียด :

การผลิตอุตสาหกรรมอาหารไทยเดือนมีนาคม 2566 หดตัวร้อยละ 5.6 มีอัตราการใช้กำลังการผลิตร้อยละ 58.3 หดตัวจากร้อยละ 62.4 ในเดือนเดียวกันของปีก่อน การหดตัวของภาคการผลิตมีสาเหตุสำคัญจากคำสั่งซื้อสินค้าที่ลดลง จากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของคู่ค้าหลักหลายประเทศที่ยังคงเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อ และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างต่อเนื่องกระทบกำลังการซื้อของผู้บริโภค  แม้ว่าเศรษฐกิจไทยเริ่มทยอยฟื้นตัวจากการได้รับปัจจัยสนับสนุนมาจากภาคท่องเที่ยวและบริการที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวในไทยต่อเนื่อง ประกอบกับการลดลงของปริมาณวัตถุดิบสินค้าเกษตรสำคัญหลายชนิด โดยกลุ่มสินค้าหลักที่มีการผลิตหดตัว ได้แก่ สับปะรดกระป๋อง (-39.9%) แป้งมันสำปะหลัง (-31.2%) การผลิตน้ำมันพืช (ยกเว้นน้ำมันปาล์ม) (-27.0%) กะทิ (-24.2%) ทูน่ากระป๋อง (-15.8%) เนื้อไก่สุกปรุงรส (-12.1%) กุ้งแช่แข็ง (-11.5%) และปลาซาร์ดีนกระป๋อง (-2.9%) ส่วนกลุ่มสินค้าหลักที่มีการผลิตขยายตัว ได้แก่ น้ำตาลทรายขาว (+23.5%) น้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ (+12.5%) เครื่องดื่มรสน้ำผลไม้ (+6.6%) และ เนื้อไก่แช่แข็งและแช่เย็น (+0.8%)

ราคาอาหารเดือนมีนาคม 2566 ขยายตัวร้อยละ 5.2 ตามการสูงขึ้นของราคาในทุกกลุ่มสินค้า จากต้นทุนวัตถุดิบ และค่าขนส่งที่เพิ่มสูงขึ้น โดยกลุ่มสินค้าอาหารที่มีราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ กลุ่มข้าวแป้งและผลิตภัณฑ์จากแป้ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.9 จากการสูงขึ้นของราคาข้าวสารเหนียว และขนมอบ กลุ่มเนื้อสัตว์และสัตว์น้ำเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.4 จากการสูงขึ้นของราคาเนื้อสุกร ไก่สด และปลาทู กลุ่มไข่และผลิตภัณฑ์นมเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.0 กลุ่มผักสดเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.9 กลุ่มผลไม้สดเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.4 กลุ่มเครื่องประกอบอาหารเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.3 และกลุ่มเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.0 จากการสูงขึ้นของราคากาแฟ ชา น้ำอัดลม และกาแฟผงสำเร็จรูป

 

การส่งออกสินค้าอาหารไทยเดือนมีนาคม 2566 มีมูลค่า 126,783  บาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 19.7 เมื่อเทียบจากเดือนเดียวกันของปีก่อน ตามความต้องการสินค้าอาหารที่เพิ่มขึ้นจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว และอานิสงส์จากราคาสินค้าอาหารส่งออกที่ปรับตัวสูงขึ้นตามต้นทุนวัตถุดิบและค่าขนส่ง ทั้งนี้ หากพิจารณาการส่งออกรายสินค้าพบว่า การส่งออกน้ำตาลยังคงขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากผลผลิตอ้อยเข้าสู่โรงงานจำนวนมาก ประกอบกับความต้องการบริโภคทั้งในและต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นตามการขยายตัวทางเศรษฐกิจเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ขณะที่ การส่งออกสับปะรด ยังคงหดตัวร้อยละ 23.0 จากปัญหาการลดลงของวัตถุดิบ เนื่องจากเกษตรกรลดพื้นที่ปลูกจากปัญหาต้นทุนที่ปรับตัวสูงขึ้น และการขาดแคลนแรงงานในบางพื้นที่

download PDF ย้อนกลับ

สถาบันอาหาร

อุตสาหกรรมพัฒนามูลนิธิ เพื่อสถาบันอาหาร

2008 ซ.อรุณอมรินทร์ 36 ถ.อรุณอมรินทร์ แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร 10700

Google map

ติดต่อสอบถาม

Email : fic@nfi.or.th
หรือ Call center
contact-img

0-2422-8688 ต่อ 3121
โทรสาร : 02-4228527