สวัสดี

Monthly Situation

สรุปภาวะอุตสาหกรรมอาหารไทย เดือนสิงหาคม และแนวโน้มการส่งออกและสัญญาณเตือนภัย เดือนกันยายน 2565

กันยายน 2565

รายละเอียด :

การผลิตอุตสาหกรรมอาหารไทยเดือนสิงหาคม 2565 ขยายตัวร้อยละ 14.4  มีอัตราการใช้กำลังการผลิตร้อยละ 54.7 ขยายตัวจากร้อยละ 46.4 ในเดือนเดียวกันของปีก่อน การขยายตัวของภาคการผลิตมีปัจจัยสำคัญจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่อง จากการผ่อนคลายมาตรการผ่านแดนในหลายประเทศทั่วโลก ที่ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติกลับเข้ามาจับจ่ายในประเทศได้อีกครั้ง โดยกลุ่มสินค้าหลักที่มีการผลิตขยายตัว ได้แก่ น้ำตาลทรายขาว (+184.9%) เนื้อไก่สุก (+155.9%) น้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ (+35.3%) เนื้อไก่แช่แข็งและแช่เย็น (+35.0%) น้ำผลไม้ (+34.3%) การผลิตปลาบรรจุกระป๋อง (+17.7%) และกุ้งแช่แข็ง (+1.0%) ส่วนกลุ่มสินค้าหลักที่มีการหดตัว ได้แก่สับปะรดกระป๋อง (-63.0%) ข้าวโพดหวานกระป๋อง (-19.3%) แป้งมันสำปะหลัง (-9.2%) กะทิ (-2.9%)

ราคาอาหารเดือนสิงหาคม 2565 ขยายตัวร้อยละ 9.4 ตามการสูงขึ้นของราคาเกือบทุกกลุ่มสินค้า ตามการเพิ่มขึ้นของต้นทุนสินค้า โดยเฉพาะราคาสินค้ากลุ่มพลังงาน ได้แก่ ราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ค่ากระแสไฟฟ้า และก๊าซหุนต้ม ประกอบกับการขายแคลนวัตถุดิบการเกษตรที่ได้รับความเสียหายจากฝนตกชุก และน้ำท่วมขังในพื้นที่ปลูก กลุ่มสินค้าอาหารที่มีราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ กลุ่มข้าวแป้งและผลิตภัณฑ์จากแป้ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 กลุ่มเนื้อสัตว์และสัตว์น้ำ เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.2  กลุ่มไข่และผลิตภัณฑ์นม เพิ่มร้อยละ 4.6  กลุ่มผักสด ร้อยละ 15.8 กลุ่มผลไม้สด ร้อยละ 7.3  กลุ่มเครื่องประกอบอาหาร ร้อยละ 11.1 และกลุ่มเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ร้อยละ 3.1

 

การส่งออกสินค้าอาหารไทยเดือนสิงหาคม 2565 มีมูลค่า 116,648 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.7  ตามความต้องการสินค้าอาหารที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและภาคการท่องเที่ยวหลังหลายประเทศผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคระบาดทำให้ผู้คนออกมาดำเนินชีวิตนอกบ้านได้เป็นปกติ และมีการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยการส่งออกมีอัตราการขยายตัวในทุกกลุ่มประเทศสำคัญ และเพิ่มขึ้นในทุกหมวดสินค้า โดยน้ำตาลทรายเป็นสินค้าที่มีมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นสูงที่สุด คิดเป็นร้อยละ 220.7 จากการส่งออกไปประเทศอินโดนีเซีย และมาเลเซียเป็นหลัก รองลงมาได้แก่ ไก่ ร้อยละ 150.2 จากการส่งออกไปยัง ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร และจีน และทูน่ากระป๋อง ร้อยละ 46.8 จากการส่งออกไปยังสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย เป็นต้น

download PDF ย้อนกลับ

สถาบันอาหาร

อุตสาหกรรมพัฒนามูลนิธิ เพื่อสถาบันอาหาร

2008 ซ.อรุณอมรินทร์ 36 ถ.อรุณอมรินทร์ แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร 10700

Google map

ติดต่อสอบถาม

Email : fic@nfi.or.th
หรือ Call center
contact-img

0-2422-8688 ต่อ 3121
โทรสาร : 02-4228527