สวัสดี

EU อนุญาตการใช้ potassium carbonate ในผัก-ผลไม้

แชร์:
Favorite (38)

26 กันยายน 2560

เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2560 คณะกรรมาธิการยุโรปได้แก้ไขบัญชีรายชื่อวัตถุเจือปนอาหาร (Union list food additives) ที่ได้รับการอนุญาตให้ใช้ในอาหาร ซึ่งเป็นการอนุญาตให้ใช้ potassium carbonate   (E 501) ในสินค้าอาหารกลุ่ม 04.1.2 ผลไม้และผักปลอกเปลือก หั่น และหั่นซอยเล็ก ที่ไม่ได้แปรรูป แช่เย็น พร้อมรับประทาน และบรรจุหีบห่อ รวมถึงมันฝรั่งที่ไม่ได้แปรรูป ปอกเปลือกและบรรจุหีบห่อแล้ว

          ทั้งนี้การออกประกาศดังกล่าวเป็นไปตามประกาศใน Commission Regulation (EU) 2017/1270 of 14 July 2017 amending Annex II to Regulation (EC) No 1333/2008 of the European Parliament and of the Council as regards the use of potassium carbonate (E 501) on peeled, cut and shredded fruit and vegetables ใน EU Official Journal L 184 Volume 1 ซึ่งเป็นการแก้ไขบัญชีรายชื่อวัตถุเจือปนอาหาร (Union list food additives) ที่ได้รับการอนุญาตให้ใช้ในอาหารตามภาคผนวกที่ 2 (Annex II) ของกฎระเบียบ Regulation (EC) No 1333/2008 เนื่องจากสารที่อนุญาตให้ใช้อยู่เดิม คือ ascorbic acid (E 300) มักจะทำให้เนื้อของผักและผลไม้สลาย ยุ่ย และเปลี่ยนสีหลังจากถูกสารไปแล้ว 2-3 วัน ซึ่ง potassium carbonate จะเป็นตัวช่วยไม่ให้ผักและผลไม้เปลี่ยนสีเป็นสีเข้มได้เป็นอย่างดี เพราะเป็นสารที่ช่วยคงตัวและปรับความเป็นกรด-ด่างที่ได้รับจากสาร ascorbic acid 

          Scientific Committee for Food กำหนดค่าที่ยอมรับได้รับต่อวัน (Acceptable Daily Intake : ADI) ของสาร carbonate ไว้ที่ระดับ “ไม่มีการระบุ (not specified)” เนื่องจากสารดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพหากใช้ในปริมาณเท่าที่จะได้รับผลทางเทคนิคที่ต้องการ (quantum satis) เท่านั้น โดยกฎระเบียบดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตามกฎหมาย 20 วันหลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 15 กรกฎาคม)

download PDF ย้อนกลับ

สถาบันอาหาร

อุตสาหกรรมพัฒนามูลนิธิ เพื่อสถาบันอาหาร

2008 ซ.อรุณอมรินทร์ 36 ถ.อรุณอมรินทร์ แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร 10700

Google map

ติดต่อสอบถาม

Email : fic@nfi.or.th
หรือ Call center
contact-img

0-2422-8688 ต่อ 3121
โทรสาร : 02-4228527